.

สหรัฐฯ ลดบทบาทช่วยเหลือ NATO–ยูเครน หลัง 'ทรัมป์' หันโฟกัสปัญหาในประเทศ 'ยุโรปหวั่นปูติน'
22-9-2025
Reuters รายงานว่า “ทรัมป์” เบรกบทบาทเวทีโลก สหรัฐฯ หันโฟกัสปัญหาภายใน-กังวลยุโรปหลังรัสเซียรุกป่วนเอสโตเนีย/โปแลนด์ หลังเดินหน้าทางการทูตอย่างหนักเพื่อคลี่คลายวิกฤตยูเครน (Ukraine) และกาซา (Gaza) ล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) กลับหันมาเน้นประเด็นภายในประเทศมากขึ้น ส่งผลให้ยุโรปและพันธมิตรนาโต (NATO) ตั้งคำถามเกี่ยวกับความต่อเนื่องในการสนับสนุนความมั่นคงจากสหรัฐฯ
แหล่งข่าวทางการทูตเผยว่ากระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (Pentagon) บอกกับคณะนักการทูตยุโรปเมื่อปลายเดือนสิงหาคม เตรียมตัดลดความช่วยเหลือด้านความมั่นคงต่อลัตเวีย ลิทัวเนีย และเอสโตเนีย สามประเทศ NATO ที่มีพรมแดนติดรัสเซีย พร้อมชี้ว่ายุโรปควรลดการพึ่งพาสหรัฐฯ โดยทรัมป์ประกาศจุดยืนว่ากองทัพจะหันมาเน้นป้องกันมาตุภูมิเป็นหลัก
นักการทูตยุโรปจำนวนหนึ่งแสดงความกังวลว่าท่าทีเช่นนี้อาจยิ่งเปิดช่องให้ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน (Vladimir Putin) เดินเกมบีบยุโรปอย่างกล้าหาญยิ่งขึ้น ซึ่งก็ได้รับการยืนยันไม่นาน ล่าสุด เครื่องบินรบ MiG-31 ของรัสเซียเข้าฝั่งเอสโตเนีย 10 นาที ก่อนถูก F-35 อิตาลีขับไล่ ขณะที่รัสเซียปฏิเสธและกล่าวว่าเป็นการบินเหนือน่านน้ำเป็นกลาง
ในเวลาต่อมา เครื่องบินรบรัสเซียยังบินเข้าใกล้แท่นขุดเจาะน้ำมันโปแลนด์ ขณะที่สัปดาห์ก่อน โดรนรัสเซียถูกสกัดในโปแลนด์ อย่างไรก็ดี ปฏิกิริยาของสหรัฐฯ ต่อเหตุการณ์เหล่านี้ถูกมองว่า "อ่อนแรง" และทรัมป์รอหลายชั่วโมงก่อนกล่าวถึงกรณีเอสโตเนีย โดยใช้เพียงประโยค “เรื่องใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น” ด้วยถ้อยคำคลุมเครือ
**ถอนบทบาทนำ-ดันให้พันธมิตรจัดการเอง**
หลังพยายามเปิดเวทีเจรจาสันติภาพยูเครน-กาซาตลอดหลายเดือน ทรัมป์เริ่มถอยห่างจากท่าทีไกล่เกลี่ยด้วยตัวเอง ให้พันธมิตรยุโรปรับบทนำ โดยสหรัฐฯ ให้เพียง “สัญญาแบบห่างๆ” ว่าจะยังคงช่วยเหลือ
ฤดูร้อนที่ผ่านมา ทรัมป์เปลี่ยนนโยบายชัดเจนจากแนว “อเมริกาต้องไม่เป็นตำรวจโลก” มาเป็น “ยุโรปต้องจัดการตามลำพัง” ถึงขั้นเรียกร้องยุโรปคว่ำบาตรผู้ซื้อพลังงานรัสเซีย หากต้องการให้วอชิงตันกดดันมอสโกมากขึ้น
ขณะที่กรณีสงครามกาซา ทรัมป์ไม่ได้แสดงความคัดค้านปฏิบัติการรุกของอิสราเอล (แม้พันธมิตรยุโรปและอาหรับตำหนิ) ล่าสุดหลังอิสราเอลโจมตีออฟฟิศฮามาสในเขตกาตาร์ ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ประท้วง แต่ไม่มีมาตรการตอบโต้จริงจัง
นักวิเคราะห์ชี้ว่าหลังจากใช้ความพยายามทางการทูตระดับสูงในช่วงแรก ทรัมป์อาจประเมินว่าวิกฤตต่างประเทศต่างๆ “แก้ไขยากเกินกว่าผลตอบแทนทางการเมือง” โดยแอรอน เดวิด มิลเลอร์ (Aaron David Miller) จาก Carnegie Endowment for International Peace กล่าวว่าทรัมป์จะไม่เข้าร่วมถ้าไม่มั่นใจว่าคุ้มค่าความพยายาม
**ยุโรปสับสน-รัสเซียได้ทีบีบเสถียรภาพ**
แหล่งข่าวทางการทูตยุโรปในวอชิงตันจำนวนหนึ่งยืนยันว่า สหรัฐฯ ได้ส่งสัญญาณคลุมเครือและ “เปลี่ยนท่าทีวกวน” หลายครั้งจนยากต่อการสร้างความเชื่อมั่น โดยซัมมิท NATO เดือนมิถุนายน ทรัมป์ชมผู้นำยุโรปและขู่รัสเซียเรื่องมาตรการคว่ำบาตร สั่งตั้งโครงการช่วยเหลืออาวุธ PURL แต่ออกเวทีเจรจากับปูตินโดยไร้ข้อสรุป ทำให้ยูเครนเสียเปรียบ
ล่าสุด สภาคองเกรสและเจ้าหน้าที่รัฐประจำในเอสโตเนีย ลิทัวเนียและลัตเวีย ยื่นหนังสือขอให้สหรัฐฯ ทบทวนแผนตัดความช่วยเหลือ ขณะที่ผู้นำทำเนียบขาวตอบกลับว่า “พันธมิตรยุโรปเป็นประเทศร่ำรวย มีศักยภาพช่วยเหลือตนเอง”
นักวิเคราะห์เตือนว่าการถอนตัวมากขึ้นของสหรัฐฯ จะยิ่งเปิดช่องให้รัสเซียกดดันทวีปยุโรปและท้าทายเสถียรภาพความมั่นคงตราบใดที่ “ยุโรปไม่รวมเป็นหนึ่งเดียวและขาดหลังบ้านอเมริกา”
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.reuters.com/world/europe/after-diplomatic-blitz-ukraine-gaza-trump-moves-passenger-seat-2025-09-20/