จีนครองแชมป์ กองทัพรถถังใหญ่ที่สุดในโลกปี 2025 ด้วยจำนวน 6,800 คัน แซงหน้ารัสเซีย-สหรัฐฯ

26-5-2025

   Visual Capitalist โดยอ้างอิงจากฐานข้อมูลของ Global Firepower ระบุว่า จีนก้าวขึ้นเป็นประเทศที่มีกองทัพรถถังใหญ่ที่สุดในโลกประจำปี 2025 ด้วยจำนวน 6,800 คัน แซงหน้าประเทศมหาอำนาจดั้งเดิมอย่างรัสเซียและสหรัฐอเมริกา สะท้อนให้เห็นถึงการขยายอิทธิพลทางการทหารของจีนในเวทีโลกอย่างมีนัยสำคัญ

   จากการเปิดเผยของ Visual Capitalist ซึ่งรวบรวมข้อมูลกองกำลังยานเกราะต่อสู้ทั่วโลก พบว่า จีนได้เพิ่มงบประมาณทางการทหารอย่างก้าวกระโดดถึง 566% ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา ในขณะที่ชาติสมาชิกนาโต้กลับลดการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศลงหลังสิ้นสุดสงครามเย็น ส่งผลให้จีนกลายเป็นประเทศที่มีการใช้จ่ายด้านการทหารสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

   รัสเซียครองอันดับที่ 2 ด้วยจำนวนรถถัง 5,750 คัน ขณะที่สหรัฐอเมริกาอยู่ในอันดับที่ 3 มีรถถัง 4,640 คัน ตามมาด้วยเกาหลีเหนือและอินเดียซึ่งมีรถถัง 4,344 คัน และ 4,201 คัน ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม กองบัญชาการยุโรปของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า รัสเซียสูญเสียรถถังไปแล้วประมาณ 3,000 คันในสงครามยูเครนเฉพาะในปี 2024 เท่านั้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของยานเกราะเหล่านี้ในยุคสมัยที่โดรนและอาวุธนำวิถีแม่นยำมีบทบาทสำคัญในสนามรบมากขึ้น

    ในแถบตะวันออกกลางและเอเชียใต้ อียิปต์ครองอันดับที่ 6 ด้วยรถถัง 3,620 คัน ตามด้วยปากีสถานในอันดับที่ 7 มีรถถัง 2,627 คัน ขณะที่ตุรกีและเกาหลีใต้อยู่ในอันดับที่ 8 และ 9 ด้วยจำนวนรถถังที่ใกล้เคียงกันคือ 2,238 คัน และ 2,236 คัน ตามลำดับ อิหร่านปิดท้ายอันดับ 10 ด้วยรถถัง 1,713 คัน สำหรับประเทศในอันดับที่ 11-20 ประกอบด้วย แอลจีเรีย (1,485 คัน), จอร์แดน (1,458 คัน), เวียดนาม (1,374 คัน), กรีซ (1,344 คัน), อิสราเอล (1,300 คัน), ยูเครน (1,114 คัน), อิรัก (1,025 คัน), โมร็อกโก (903 คัน), ไต้หวัน (888 คัน) และซาอุดีอาระเบีย (840 คัน)

    ทั้งนี้ แม้ว่ารถถังจะเผชิญความท้าทายจากภัยคุกคามรูปแบบใหม่ แต่ยังคงเป็นองค์ประกอบสำคัญของสงครามอาวุธผสมในยุคปัจจุบัน ด้วยความสามารถในการส่งกำลังอาวุธหนัก ดูดซับความเสียหาย และสนับสนุนทหารราบในพื้นที่ที่มีภูมิประเทศซับซ้อน

    ประเทศมหาอำนาจยังคงพัฒนาและปรับปรุงรถถังรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่น M1A2 Abrams ของสหรัฐอเมริกา และ Type 99 ของจีน ซึ่งได้รับการอัพเกรดด้วยระบบป้องกันเชิงรุก เซ็นเซอร์ประสิทธิภาพสูง และเทคโนโลยีขับเคลื่อนแบบไฮบริด เพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงไปในสนามรบยุคใหม่

   ข้อมูลดังกล่าวนี้มาจากการวิเคราะห์ของ Visual Capitalist โดยอ้างอิงจากฐานข้อมูลของ Global Firepower ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลที่ได้รับการยอมรับในการจัดอันดับกองกำลังทางทหารทั่วโลก โดยตัวเลขเหล่านี้เป็นข้อมูลล่าสุดที่ได้รับการปรับปรุงจนถึงปี 2025 ทั้งนี้ ยอดจำนวนรถถังนี้ไม่รวมยานเกราะบรรทุกพลและยานเกราะสู้รบทหารราบประเภทอื่นๆ

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.visualcapitalist.com/the-worlds-largest-combat-tank-fleets-in-2025/?fbclid=IwY2xjawKf9HBleHRuA2FlbQIxMABicmlkETF0cEc5MFFkcFFhNFhZazJWAR4aD0RBc4HEK0a8bBc3MB2CdDysWRhkQ4hBcni6R62zVP5MpHEbi_PfI4dKkA_aem__pTQ4UKVFjyPfoXGtNE7_w