ปีเตอร์ เทียล มหาเศรษฐีบิ๊กเทค ผู้อยู่เบื้องหลังทรัมป์, แวนซ์

9-3-2025

     มหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยีและนักธุรกิจ ปีเตอร์ เทียล (Peter Thiel) มีอิทธิพลอย่างมากต่อรัฐบาลของประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ตามที่บทความของ Bloomberg ได้อ้างไว้ อย่างไรก็ตาม ที่ต่างจากซีอีโอของ Tesla และ SpaceX อีลอน มัสก์ เขาเลือกที่จะเก็บตัวและไม่เปิดเผยตัวมากนัก

    Bloomberg รายงานเมื่อวันศุกร์ว่า มีบุคคลมากกว่า10คนที่เชื่อมโยงกับเทียล ผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal, Palantir Technologies และ Founders Fund ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลทรัมป์ กลุ่มนี้รวมถึง “พนักงานปัจจุบันและอดีตของบริษัทของเขา รวมถึงผู้ที่ช่วยจัดการทรัพย์สินของเขา หรือได้รับประโยชน์จากเงินลงทุนและการบริจาคของเขา”

     สำนักข่าวระบุรายชื่อ 15 บุคคลในรัฐบาลที่มีความสัมพันธ์กับนักธุรกิจผู้นี้ โดย 5 คนในจำนวนนี้ทำงานในกรมความมีประสิทธิภาพของรัฐบาล (DOGE) ที่นำโดยมัสก์  ในจำนวนเจ้าหน้าที่เหล่านี้รวมถึงรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ และผู้อำนวยการด้าน AI และคริปโต เดวิด แซคส์ ตามรายงานของ Bloomberg ในอดีตเคยทำงานที่ Mithril Capital ของเทียล

      ในขณะที่เทียลถูกระบุว่าเป็น “พี่เลี้ยง” และผู้สนับสนุนของแวนซ์ นักธุรกิจด้านเทคโนโลยีรายนี้ยังถูกกล่าวว่าช่วยแวนซ์สร้างความสัมพันธ์กับทรัมป์ในปี 2564 หลังจากที่วุฒิสมาชิกจากโอไฮโอในขณะนั้นวิจารณ์นักการเมืองสายอนุรักษ์นิยมคนนี้อย่างเปิดเผย แซคส์ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของเทียลมานาน ก็เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal เช่นกัน

เทียล วัย 57 ปี ไม่ดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการใด ๆ ในรัฐบาล

     Bloomberg อ้างคำพูดของควินน์ สลอโบเดียน ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์ระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยบอสตัน ที่อธิบายถึงขอบเขตของอิทธิพลที่บุคคลสำคัญในวงการเทคโนโลยีขนาดใหญ่มีต่อรัฐบาลสหรัฐว่า “ไม่เคยมีมาก่อนในยุคสมัยใหม่” นักวิชาการแนะนำว่าบุคคลเหล่านี้สนใจที่จะดำเนินการ “การปรับปรุงจากล่างขึ้นบนในวิธีการทำงานของรัฐบาล” มากกว่าที่จะแค่ “ทำกำไรจากสัญญาของรัฐ”

       สำนักข่าวชี้ว่า มัสก์ ซึ่งเป็นผู้นำในการรณรงค์ต่อต้านการสิ้นเปลืองและระบบราชการในรัฐบาลทรัมป์ ก็มีความสัมพันธ์กับเทียลมานานแล้ว

      ในวันศุกร์ หนังสือพิมพ์ New York Times อ้างว่า ความแตกแยกระหว่างมัสก์และสมาชิกคนอื่น ๆ ในทีมทรัมป์เริ่มปรากฏชัดเจนเมื่อเร็ว ๆ นี้ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ มัสก์มีข้อขัดแย้งกับรัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีทำเนียบขาวที่ “น่าตกตะลึง” เมื่อวันก่อน

    สื่อรายงานว่า มหาเศรษฐีรายนี้กล่าวหาว่ารูบิโอไม่สามารถดำเนินการตัดตำแหน่งงานได้อย่างเหมาะสม โดยประธานาธิบดีต้องเข้ามาแทรกแซงเพื่อยุติข้อพิพาท อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดกับผู้สื่อข่าว ทรัมป์ปฏิเสธเหตุการณ์นี้ โดยยืนยันว่า “อีลอนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับมาร์โก และทั้งสองกำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม”

ที่มา RT