.

อิหร่านปฏิเสธการเจรจานิวเคลียร์กับสหรัฐฯ 'ยืนยันไม่ได้รับจดหมายจากทรัมป์ 'ตราบใดที่มาตรการคว่ำบาตรยังมีอยู่
9-3-2025
Euronews รายงานว่า อิหร่านยืนยันว่าไม่ได้รับจดหมายจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และเน้นย้ำว่าจะไม่เข้าร่วมการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์ตราบใดที่มาตรการคว่ำบาตรของวอชิงตันต่อเตหะรานยังคงมีผลบังคับใช้ ท่ามกลางความพยายามของฝ่ายอเมริกันที่ต้องการทำข้อตกลงใหม่เพื่อยับยั้งโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าประธานาธิบดีทรัมป์ได้ส่งจดหมายถึงอาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน เพื่อขอทำข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่ เพื่อทดแทนข้อตกลงที่สหรัฐฯ ได้ถอนตัวออกในสมัยที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีวาระแรก
ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อสหรัฐฯ ทรัมป์เน้นย้ำว่าตนชอบใช้แนวทางสันติและต้องการบรรลุข้อตกลงทางการทูตโดยไม่ต้องใช้กำลัง พร้อมแสดงความคาดหวังว่าจะเห็นผลลัพธ์ "ในเร็วๆ นี้"
"ผมหวังว่าเราจะมีข้อตกลงสันติภาพได้ ผมไม่ได้พูดจากจุดยืนของความแข็งแกร่งหรือความอ่อนแอ ผมแค่บอกว่าผมอยากเห็นข้อตกลงสันติภาพมากกว่าทางเลือกอื่น แต่ทางเลือกอื่นก็จะแก้ปัญหาได้เช่นกัน" ทรัมป์กล่าว
ทรัมป์ยังเปิดเผยว่าเขาได้เขียนจดหมายถึงเตหะรานเพื่อบอกผู้นำสูงสุดว่าเขาหวังให้ทั้งสองฝ่ายเจรจากัน โดยในจดหมายมีการส่งคำเตือนอย่างชัดเจนว่าหากอิหร่านไม่เข้าร่วมการเจรจา การแทรกแซงทางทหารก็เป็นทางเลือกที่สหรัฐฯ อาจดำเนินการ
"ผมหวังว่าคุณจะตกลงเจรจา เพราะถ้าเราต้องเข้าไปด้วยวิธีการทางทหาร มันจะเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก" ทรัมป์กล่าว
ด้านสหประชาชาติได้แสดงความยินดีกับความพยายามของทรัมป์ในการติดต่อกับอิหร่าน โดยสเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกสหประชาชาติ ระบุในแถลงการณ์ว่า "ตามหลักการแล้ว เราขอยืนยันว่าการทูตยังคงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรับรองลักษณะที่สันติของโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน" และ "เรายินดีต้อนรับความพยายามทางการทูตทุกรูปแบบเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว"
อย่างไรก็ตาม อิหร่านยืนยันว่าไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากวอชิงตัน และปฏิเสธความเป็นไปได้ในการเจรจา โดยอับบาส อาราฆชี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านได้ให้ความเห็นว่า ตราบใดที่วอชิงตันยังคงใช้มาตรการคว่ำบาตรอย่างหนักต่อเตหะราน การเจรจาหรือความร่วมมือด้านนิวเคลียร์ก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้
"เราจะไม่เข้าร่วมการเจรจาโดยตรงกับสหรัฐฯ ตราบใดที่พวกเขายังคงใช้นโยบายกดดันสูงสุดและการข่มขู่ต่อไป" รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านกล่าว
ทั้งสหรัฐฯ และอิสราเอลเคยเตือนว่าจะไม่ยอมให้อิหร่านครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งนำไปสู่ความกังวลว่าอาจเกิดการเผชิญหน้าทางทหาร โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เตหะรานกำลังเสริมสมรรถนะยูเรเนียมในระดับใกล้เคียงกับระดับที่สามารถนำไปผลิตอาวุธได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้เฉพาะประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์อยู่แล้วเท่านั้น
รัฐบาลทรัมป์ได้นำมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านกลับมาบังคับใช้อีกครั้ง รวมถึงมาตรการที่มีผลต่อภาคอุตสาหกรรมน้ำมันของประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายกดดันสูงสุดที่ออกแบบมาเพื่อทำลายเศรษฐกิจอิหร่านและบังคับให้รัฐบาลยอมจำนนทางการทูต
ในสุนทรพจน์เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผู้นำสูงสุดคาเมเนอีเคยเปิดประตูสู่การเจรจากับสหรัฐฯ โดยกล่าวว่า "ไม่มีอันตรายใดๆ ในการมีปฏิสัมพันธ์กับศัตรู" อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ เขาได้เปลี่ยนท่าทีโดยระบุว่าการเจรจากับวอชิงตันนั้น "ไม่ฉลาด ไม่รอบคอบ และไม่สมเกียรติ" หลังจากที่ทรัมป์เสนอแนวคิดเรื่องการเจรจานิวเคลียร์
ยังไม่มีความชัดเจนว่าคาเมเนอีจะยอมรับจดหมายจากทรัมป์หรือไม่ โดยเป็นที่ทราบกันว่าในปี 2019 อายาตอลเลาะห์เคยปฏิเสธที่จะรับจดหมายที่ทรัมป์ส่งมาในช่วงดำรงตำแหน่งวาระแรก ซึ่งส่งผ่านชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
คาเมเนอีประกาศในครั้งนั้นว่าเขาไม่ถือว่าทรัมป์ "มีคุณค่าพอที่จะแลกเปลี่ยนข้อความใดๆ" และยืนยันว่าเขาจะไม่ตอบกลับทรัมป์เป็นอันขาด
---
IMCT NEWS
------------------------------------
ทรัมป์เผยส่งจดหมายถึงอิหร่านเพื่อเจรจานิวเคลียร์
9-3-2025
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าเขาต้องการเจรจานิวเคลียร์กับอิหร่าน และได้ส่งจดหมายไปยังผู้นำกรุงเตหะรานในวันพฤหัสบดี โดยระบุว่าเขาหวังว่าประเทศที่เป็นคู่อริกับสหรัฐฯ มายาวนานเเห่งนี้จะยอมร่วมวงหารือ
"ผมหวังว่าคุณจะมาเจรจา เพราะมันจะดีกว่ามากสำหรับอิหร่าน" ทรัมป์กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสื่อ Fox Business Network ในวันศุกร์
"ผมคิดว่าพวกเขาอยากจะได้รับจดหมาย อีกทางเลือกหนึ่งคือเราต้องทำอะไรบางอย่าง เพราะคุณไม่สามารถปล่อยให้มีอาวุธนิวเคลียร์อื่น ๆ อีก"
รอยเตอร์รายงานว่ายังไม่มีปฏิกิริยาออกมาจากกระทรวงการต่างประเทศของรัฐบาลเตหะราน ในช่วงสุดสัปดาห์เมื่อนักข่าวถามความเห็นไปที่อิหร่านเกี่ยวกับถ้อยเเถลงของผู้นำสหรัฐฯ
จดหมายที่ทรัมป์ระบุน่าจะถูกส่งถึง อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน อย่างไรก็ตามทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ไม่ได้ตอบกลับการขอความเห็นจากนักข่าวโดยทันที
ทรัมป์กล่าวว่าวิธีที่จะดำเนินการกับอิหร่านมีเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง วิธีทางทหารและการเจรจาเพื่อให้เกิดความตกลง "เพราะผมไม่ต้องการทำร้ายอิหร่าน" ทรัมป์กล่าว และยังได้ชื่มชมชาวอิหร่านด้วยว่า "ยอดเยี่ยม"
ที่ผ่านมาประธานาธิบดีทรัมป์ รื้อเเนวทางด้านต่างประเทศของสหรัฐฯ เขามีนโยบายประสานประโยชน์มากขึ้นกับรัสเซีย ซึ่งสร้างความกังลต่อชาติตะวันตก โดยทรัมป์พยายามเป็นตัวกลางเพื่อให้สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่กินเวลามานาน 3 ปี จบลง
ในปี 2018 ภายใต้การบริหารประเทศสมัยเเรกของเขา ทรัมป์ได้ถอนสหรัฐฯ ออกจากความตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน ซึ่งเป็นความพยายามของหลายฝ่ายที่ต้องการให้รัฐบาลเตหะรานเลิกพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
เมื่อเดือนที่แล้ว ทรัมป์กล่าวว่าตนต้องการมีข้อตกลงกับอิหร่าน เพื่อให้รัฐบาลเตหะรานล้มเแผนการผลิตอาวุธดังกล่าว
รัสเซียเคยเสนอเป็นตัวกลาง หากเกิดการเจรจาขึ้นตามรายงานของรอยเตอร์ที่อ้างแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อในวันอังคาร
ที่มา: รอยเตอร์