'ออร์บัน' ชี้ EUควรเจรจากับรัสเซียเพื่อหยุดยิงในยูเครน

ขอบคุณภาพจาก The Atlantic

2-3-2025

    Financial Times รายงานอ้างคำพูดของวิกเตอร์ ออร์บาน นายกรัฐมนตรีฮังการี ที่เรียกร้องให้สหภาพยุโรปดำเนินการเจรจาโดยตรงกับรัสเซียเพื่อเจรจาหยุดยิงในยูเครน โดยอ้างจากจดหมายที่ออร์บันส่งไปยังกรุงบรัสเซลส์

    นับตั้งแต่ความขัดแย้งในยูเครนทวีความรุนแรงขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 บูดาเปสต์ได้วิพากษ์วิจารณ์การขนส่งอาวุธของสหภาพยุโรปไปยังกรุงเคียฟซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยรัฐบาลฮังการียังเรียกร้องให้ยกเลิกการคว่ำบาตรที่บังคับใช้กับรัสเซียด้วย

    ในบทความที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ (1 มี.ค.) FT อ้างคำพูดของจดหมายที่ออร์บันส่งไปยังอันโตนิโอ คอสตา ประธานสภายุโรป โดยอ้างว่านายกรัฐมนตรีฮังการีเรียกร้องให้สหภาพยุโรปเริ่ม "การหารือโดยตรงกับรัสเซียเกี่ยวกับการหยุดยิง"

   นอกจากนี้ ออร์บันก็ยังระบุว่า “เห็นได้ชัดว่ามีข้อแตกต่างเชิงยุทธศาสตร์ในแนวทางของเราต่อยูเครนที่ไม่สามารถเชื่อมโยงได้ด้วยการร่างหรือการสื่อสาร” ซึ่ง FT ตีความคำพูดดังกล่าวว่า เป็นสัญญาณว่าบูดาเปสต์จะขัดขวางข้อตกลงใดๆ ภายในกลุ่ม เว้นแต่จะรับฟังคำเรียกร้องของฮังการี

    รายงานระบุว่าผู้นำฮังการีอ้างถึงมติที่ร่างโดยสหรัฐฯ ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (24 ก.พ.) ซึ่งระบุว่า วาซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ ยกย่องมติดังกล่าวว่าเป็น “จุดเริ่มต้นของความพยายามในอนาคตเพื่อยุติความขัดแย้งในยูเครนโดยสันติ” โดยมติดังกล่าวเรียกร้องให้ “ยุติ” ความขัดแย้งในยูเครนโดยเร็ว โดยหลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคำที่ประณามรัสเซียโดยตรง คณะมนตรีซึ่งมีสมาชิก 15 ประเทศลงมติเห็นชอบด้วยมติดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 10-0 โดยฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร เดนมาร์ก กรีซ และสโลวีเนียงดออกเสียง

ในจดหมายที่ส่งถึงคอสตา ออร์บันระบุว่าเอกสารดังกล่าว "เป็นสัญญาณของช่วงใหม่ในประวัติศาสตร์ของความขัดแย้ง [ในยูเครน] และทำให้ภาษาที่สภายุโรปตกลงกันก่อนหน้านี้ไม่เกี่ยวข้อง" ซึ่งข้อความดังกล่าวมีขึ้นก่อนการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรปที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ และเป็นที่คาดการณ์ว่า จะเน้นไปที่ความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมสำหรับยูเครน

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (28 ก.พ.) ออร์บันได้ดับความหวังของยูเครนที่มีต่อสหภาพยุโรป โดยชี้แจงว่าแม้ว่าบูดาเปสต์จะไม่คัดค้านการประเมินในหลักการ แต่ "ในตอนนี้ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่คิดไม่ถึง" พร้อมโต้แย้งว่าการยอมรับของยูเครนในขณะนี้ "จะทำลายเกษตรกรฮังการี... และเศรษฐกิจของชาติฮังการีทั้งหมดในเวลาต่อมา"

"ผมยังไม่เห็นอย่างชัดเจนว่าเราจะหยุดยั้งอาชญากรรมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะไหลบ่าเข้ามาในฮังการีพร้อมกับมันได้อย่างไร"

ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ประจำปีเกี่ยวกับสถานะของประเทศในบูดาเปสต์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ออร์บันคาดการณ์ว่ายูเครนจะไม่ได้รับการยอมรับให้เข้าร่วม NATO เช่นกัน แต่จะกลายเป็น “เขตกันชนอีกครั้ง” ระหว่างกลุ่มทหารและรัสเซียเมื่อสงครามกับมอสโกสิ้นสุดลง นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่า “กลุ่มเสรีนิยมในยุโรปและอเมริกา” คำนวณผิดพลาดอย่างร้ายแรง โดยคิดว่ารัสเซียจะไม่ตอบสนองต่อความพยายามลากเคียฟเข้าร่วม NATO

IMCT News

ที่มา https://www.rt.com/news/613560-ft-orban-demands-eu-dialogue-russia-ukraine/

----------------------------
สโลวาเกียลั่น! ไม่สนับสนุนการทำสงครามของยูเครน

2-3-2025

     นายกรัฐมนตรีโรเบิร์ต ฟิโกของสโลวาเกียระบุว่า บราติสลาวาจะไม่ให้ความช่วยเหลือทางการทหารหรือทางการเงินแก่เคียฟอีกต่อไป โดยปฏิเสธคำขวัญของชาติตะวันตกที่ว่า “สันติภาพผ่านกำลัง” และเรียกร้องให้หยุดยิงในยูเครนทันที โดยการประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อการประชุมที่ตึงเครียดที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (28 ก.พ.) ซึ่งเป็นที่คาดว่า โวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ และรองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ พยายามเจรจาและจัดทำข้อตกลงด้านแร่ธาตุระหว่างวอชิงตันและเคียฟอย่างเป็นทางการ แต่การหารือกลับกลายเป็นการโต้เถียงอย่างดุเดือดแทน ทำให้ทรัมป์ยุติการประชุม โดยระบุว่าเซเลนสกี “ไม่พร้อม” สำหรับสันติภาพ

“เรากำลังมองหาสันติภาพ เราไม่ได้กำลังมองหาใครสักคนที่จะลงนามในมหาอำนาจที่แข็งแกร่งแล้วไม่ทำสันติภาพเพียงเพราะรู้สึกกล้า” ผู้นำสหรัฐกล่าวกับสื่อมวลชนในภายหลัง

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีฟิโกระบุเมื่อวานนี้ (1 มี.ค.) ว่า “สโลวาเกียจะไม่สนับสนุนยูเครน ไม่ว่าจะทางการเงินหรือทางทหาร เพื่อดำเนินสงครามต่อไป หากคนอื่นสนับสนุน เราก็จะเคารพการตัดสินใจ”

สำหรับผู้นำสโลวาเกีย เคยวิจารณ์ผู้สนับสนุนเคียฟจากตะวันตกที่แสวงหา “สันติภาพผ่านกำลัง” โดยกล่าวว่าแนวทางนี้ไม่สมจริง และเป็นข้ออ้างในการยืดเวลาการสู้รบ โดยฟิโกโต้แย้งว่า “ยูเครนไม่มีวันแข็งแกร่งพอที่จะเจรจาจากจุดยืนที่มีอำนาจทางทหารได้”

ขณะเดียวกัน สโลวาเกียมีแผนที่จะเสนอ “การหยุดยิงทันที” ในการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรปที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ (6 มี.ค) แม้ว่าเซเลนสกีและประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปหลายประเทศจะปฏิเสธข้อเสนอนี้

นอกจากนี้ ฟิโกยังเตือนด้วยว่าการจำกัดอุปทานก๊าซของรัสเซียจะส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมในยุโรป และเรียกร้องให้เริ่มการขนส่งก๊าซผ่านยูเครนไปยังสโลวาเกียและยุโรปตะวันตกอีกครั้ง

“ก๊าซจากตะวันออกไปตะวันตกไม่ได้ไหล แต่ยูเครนกลับใช้ก๊าซจากยุโรปแทน” ฟิโกกล่าว พร้อมอธิบายสถานการณ์ปัจจุบันว่า “ไร้สาระ” และยืนกรานว่าความช่วยเหลือของสหภาพยุโรปต่อยูเครน “ไม่สามารถเป็นตั๋วเที่ยวเดียวได้”

แม้จะรับทราบถึงความจำเป็นในการเสริมสร้างศักยภาพการป้องกันประเทศของยุโรป แต่ฟิโกก็ยังคงเรียกร้องให้ผู้นำสหภาพยุโรปยอมรับมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครน เพราะ “หากการประชุมสุดยอดไม่เคารพว่ามีความคิดเห็นอื่นใดนอกเหนือจากการดำเนินสงครามต่อไป คณะมนตรียุโรปอาจไม่สามารถตกลงกันเกี่ยวกับข้อสรุปเกี่ยวกับยูเครนได้”

ตั้งแต่กลับเข้ารับตำแหน่งในปี 2023 ฟิโกได้วิพากษ์วิจารณ์อย่างเปิดเผยต่อจุดยืนของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครน เขายุติความช่วยเหลือทางทหารของสโลวาเกียต่อเคียฟ คัดค้านการเสนอตัวเป็นสมาชิก NATO ของยูเครน และสนับสนุนการเจรจาสันติภาพโดยทันที รวมถึงวิพากษ์วิจารณ์การคว่ำบาตรรัสเซียของสหภาพยุโรป โดยให้เหตุผลว่าไม่มีประสิทธิภาพและเป็นอันตรายต่อยุโรป และเรียกร้องให้ชาติตะวันตกกลับมาเจรจากับมอสโกตามปกติอีกครั้ง

IMCT News

ที่มา https://www.rt.com/news/613562-fico-ukraine-aid-power/