‘โดนัลด์ ทรัมป์’ รับตำแหน่งปธน. ย้ำ ‘ยุคทองของอเมริกาเริ่มต้นขึ้นแล้ว’
21-1-2025
โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ อีกครั้งในวันจันทร์ หลังเข้าพิธีปฏิญาณตนรับตำแหน่งในอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ
ทรัมป์ กล่าวสุนทรพจน์หลังรับตำแหน่งปธน.คนที่ 47 ว่า “ยุคทองของอเมริกาเริ่มต้นขึ้นแล้ว” และว่า “จากนี้ไป ยุคเสื่อมถอยของอเมริกาสิ้นสุดลงแล้ว เราจะนำพาประเทศไปถึงจุดสูงสุดใหม่แห่งชัยชนะและความสำเร็จ ไม่มีความฝันใดที่เราไม่สามารถทำได้ เราจะไม่พ่ายแพ้ เราจะไม่ล้มเหลว” พร้อมประกาศจะเริ่มลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์การเมืองอเมริกันตามแบบของเขา
In photos: Trump inauguration
ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นจัดที่กรุงวอชิงตัน ทรัมป์ และเมลาเนีย ภริยา เจ.ดี.แวนซ์ รองปธน. และครอบครัว เริ่มต้นพิธีปฏิญาณตนรับตำแหน่ง 8 ปีหลังจากเขาขึ้นเป็นผู้นำสมัยแรก เริ่มต้นธรรมเนียมปฏิบัติที่โบสถ์ St. John’s Episcopal Church ที่อยู่ตรงข้ามทำเนียบขาวในช่วงเช้า และไปร่วมจิบชากับครอบครัวไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ คนที่ 46 ก่อนจะมุ่งหน้ามาเข้าพิธีปฏิญาณตนที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ร่วมพิธี 600 คน
พิธีปฏิญาณตนรับตำแหน่งของทรัมป์ ได้ลดขนาดลงมาและจัดภายในอาคาร เนื่องจากสภาพอากาศหนาวจัด มีผู้ร่วมงานราว 600 คน ที่จะได้เห็นพิธีการเปลี่ยนผ่านอำนาจภายในอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ จากที่ปกติแล้วจะเป็นพิธีการที่จัดด้านนอกอาคาร และมีผู้คนราว 250,000 คนได้รับเกียรติเข้าชมวาระสำคัญดังกล่าว
ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ดำรงตำแหน่งไม่ต่อเนื่องกันในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกันสมัยใหม่ โดยผู้นำสหรัฐฯ คนล่าสุดที่มีวาระดำรงตำแหน่งไม่ต่อเนื่องกัน คือ โกรเวอร์ คลีฟแลนด์ เมื่อช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1890
นอกจากนี้ ทรัมป์ ในวัย 78 ปี ยังถือเป็นผู้นำที่อายุมากที่สุดที่เข้ารับตำแหน่งปธน. โดยแก่กว่าไบเดน 5 เดือนเมื่อครั้งที่เขาเข้าพิธีปฏิญาณตนเมื่อ 4 ปีก่อน ขณะที่รองปธน.แวนซ์ รับตำแหน่งรองปธน.คนที่ 50 ของอเมริกา และเป็นรองปธน.ที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกัน
อีกสิ่งที่จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกัน คือ ทรัมป์จะเป็นคนแรกที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญาแต่ก็ได้ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดี หลังจากการถูกตัดสินว่ามีความผิด 34 กระทงในคดีอาญา ซึ่งเกี่ยวข้องกับเงินค่าปิดปากอดีตดาราหนังผู้ใหญ่ สตอร์มีย์ แดเนียลส์
ส่วนการดำเนินคดีต่อทรัมป์ ในความพยายามพลิกผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 ที่พ่ายแพ้ต่อไปเดน ได้ถูกยกเลิกไป เมื่อเขาเอาชนะคู่แข่งจากพรรคเดโมแครต รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2024 เนื่องจากนโยบายของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ที่ห้ามการดำเนินคดีกับประธานาธิบดีระหว่างดำรงตำแหน่ง
ในงานนี้ มีมหาเศรษฐีหลายรายเข้าร่วม อาทิ เจฟฟ์ เบโซส จากแอมะซอน มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก จากเฟซบุ๊ก อิลอน มัสก์ เจ้าของเทสลา และซีอีโอติ๊กตอก โชว ชื่อ ชู
นอกจากนี้ ยังมีผู้นำและตัวแทนระดับสูงจากต่างชาติ อาทิ รองปธน.จีน หาน เจิ้ง นายกรัฐมนตรีอิตาลี จิออร์เจีย เมโลนี ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา ฮาเวียร์ มิเล เป็นต้น
ในปีนี้ อดีตผู้นำสหรัฐฯ บิล คลินตัน, จอร์จ ดับเบิลยู บุช, บารัค โอบามา รวมทั้งปธน.โจ ไบเดน และรองปธน.คามาลา แฮร์ริส เข้าร่วมงาน
เมี่อค่ำวันอาทิตย์ ทรัมป์ ได้ให้คำมั่นกับผู้สนับสนุนที่กรุงวอชิงตันว่าจะ “ดำเนินการอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง และแก้ไขทุกวิกฤตที่ประเทศกำลังเผชิญ” และว่า “วันพรุ่งนี้(จันทร์)ตอนเที่ยง ม่านจะปิดลงสำหรับ 4 ปีอันเสื่อมถอยของอเมริกาที่ยาวนาน และเราเริ่มต้นด้วยวันใหม่แห่งความเข้มแข็งและเจริญรุ่งเรืองของอเมริกา”
ทรัมป์ ประกาศว่าจะลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารมากมายทันทีที่ก้าวเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบขาว แก้ไขนโยบายในคณะทำงานไบเดน หนึ่งในคำมั่นสัญญาที่เป็นที่จดจำในช่วงหาเสียงของเขา คือ การเนรเทศผู้ที่เข้าสหรัฐฯ โดยผิดกฎหมายครั้งใหญ่ และขึ้นภาษีนำเข้ากับประเทศคู่ค้าสำคัญ รวมทั้งแคนาดา จีน และเม็กซิโก
ว่าที่ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ ยังกล่าวว่า เขามีแผนอภัยโทษผู้สนับสนุน 1,500 คน ที่บุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อ 6 ม.ค. 2021 เพื่อระงับการรับรองผลการเลือกตั้งที่ไบเดนได้รับชัยชนะเหนือตนในการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 และเรียกผู้ที่ถูกจับกุมและตัดสินว่ามีความผิดในเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็น “ผู้ที่รักชาติ” และ "ผู้ตกเป็นเชลย" ในการดำเนินคดีที่ไม่ถูกต้อง
สำหรับขบวนพาเหรดตามประเพณีในการเฉลิมฉลองการเถลิงอำนาจของทรัมป์ บริเวณถนนเพนซิลเวเนีย แอฟวินิว จากอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ไปยังทำเนียบขาว ได้ยกเลิกไปเช่นกันเพราะเหตุผลด้านสภาพอากาศ และย้ายไปจัดงานในแคปิตอล วัน อารีนา ซึ่งอยู่ใกล้เคียง และรองรับผู้คนได้ 20,000 คนภายในสเตเดียมที่ใช้จัดคอนเสิร์ตและการแข่งขันกีฬาแห่งนี้ ส่วนงานเลี้ยงเต้นรำในช่วงค่ำวันจันทร์ยังเป็นไปตามกำหนดการเดิม
ที่มา: วีโอเอ