ยูเครนหวังพึ่งทรัมป์ยุติสงคราม เซเลนสกีเปิดใจ 'เขารู้วิธีกดดัน-เป็นนักธุรกิจ'
22-1-2025
ยูเครนพลิกมุมมองต่อทรัมป์ จากหวาดกลัวสู่ความหวังยุติสงคราม เซเลนสกียืนยันพร้อมเป็นพันธมิตร มองทรัมป์เป็นทางออกสงคราม พร้อมยอมรับความจริงบางอย่างเพื่อสันติภาพ ท่ามกลางความเหนื่อยล้า 3 ปี
POLITICO รายงานว่า ท่ามกลางการประชุมเวทีเศรษฐกิจโลกที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ยูเครนแสดงท่าทีพลิกจากความหวาดกลัวสู่ความหวังต่อการขึ้นดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แม้เพียงไม่กี่เดือนก่อน เคียฟเคยกังวลว่าทรัมป์อาจบีบให้ยูเครนยอมจำนนต่อวลาดิมีร์ ปูติน
ชาวยูเครนกำลังมองทรัมป์เป็นความหวังในการยุติสงครามที่ยืดเยื้อมา 3 ปี แม้ก่อนหน้านี้เคยหวั่นว่าการกลับมาของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะบีบให้ปูตินกลับสู่โต๊ะเจรจา และเปิดทางออกให้ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี เคิร์ต โวลเกอร์ อดีตผู้แทนพิเศษสหรัฐฯ ประจำยูเครนในสมัยทรัมป์ กล่าวกับ POLITICO ว่า "เป็นการมองโลกในแง่ดีที่แท้จริง" หลังจากปี 2024 ที่เป็นปีแห่งการรอคอย ปี 2025 จะเป็น "ปีแห่งการกระทำ"
เซเลนสกีเองก็ยอมรับว่าทรัมป์อาจทำให้ทั้งสองฝ่ายกลับสู่โต๊ะเจรจาได้ "ทรัมป์เป็นนักธุรกิจ เขารู้วิธีใช้แรงกดดัน" ประธานาธิบดียูเครนกล่าวหลังปราศรัยที่ดาวอส พร้อมเผยว่าทรัมป์สัญญาจะ "ทำทุกอย่างเพื่อยุติสงครามในปีนี้" และเขาตอบกลับว่า "เราเป็นพันธมิตรของคุณ"
อย่างไรก็ตาม เส้นทางสู่สันติภาพอาจไม่สวยงามนัก เซเลนสกีอาจต้องยอมรับว่าไม่สามารถกลับสู่พรมแดนก่อนสงคราม และโอกาสเข้าร่วมนาโตอาจเป็นไปไม่ได้ แม้จะไม่มีวันยอมรับว่าดินแดนที่ถูกยึดเป็นของรัสเซียก็ตาม
มักซิม ทิมเชนโก ซีอีโอบริษัทพลังงาน DTEK ระบุว่า "สิ่งที่เราต้องการคือความแน่นอน" และเชื่อว่ารัฐบาลทรัมป์จะนำมาสู่สิ่งนั้น แม้ต้องไม่กระทบต่อ "สันติภาพที่ยุติธรรม" ในยูเครน ด้านทิโมฟี ไมโลวานอฟ อดีตรัฐมนตรียูเครนมองว่า แม้อาจ "ไม่ดีนัก แต่จะดีกว่าสมัยไบเดน" ที่เพียง "รอให้พายุผ่านไป"
ปัจจัยเกื้อหนุนคือสภาพเศรษฐกิจรัสเซียที่เผชิญเงินเฟ้อเกินควบคุม ดอกเบี้ยสูงถึง 21% ขาดแคลนแรงงาน และสูญเสียกำลังพลจำนวนมาก โวลเกอร์คาดว่าทรัมป์จะเรียกร้องให้ปูตินยุติสงคราม หากไม่ได้รับความร่วมมือ อาจใช้มาตรการรุนแรงขึ้น ทั้งคว่ำบาตร เพิ่มการส่งออกพลังงาน และสนับสนุนทางทหารผ่านโครงการให้ยืม-เช่า
โซยา ลิตวิน หัวหน้าศูนย์เทคโนโลยีรัฐบาลในเคียฟ เผยว่าความเห็นต่อทรัมป์แบ่งเป็นสองกลุ่ม ระหว่างผู้สนับสนุนค่านิยมตะวันตกที่ "กลัวทรัมป์" กับกลุ่มที่ผิดหวังกับการสนับสนุน "ไม่เพียงพอ" ของไบเดน และหวังว่าทรัมป์จะ "มีอำนาจมากพอนำมาซึ่งเสถียรภาพ"
"ชาวยูเครนไม่รู้ว่าทรัมป์จะทำอะไร แต่พวกเขารู้ว่าไบเดนทำอะไร" สตีเวน มัวร์ ผู้ก่อตั้ง Ukraine Freedom Project กล่าว พร้อมระบุว่าชาวยูเครนมองทรัมป์เป็นผู้นำที่เข้มแข็ง เทียบกับไบเดนที่ "บางวันพูดประโยคยาวๆ ไม่ได้" สะท้อนความหวังว่าการเปลี่ยนผู้นำสหรัฐฯ อาจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ยูเครนต้องการ
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.politico.eu/article/war-in-ukraine-donald-trump-volodymyr-zelenskyy-davos/