จีนเผยแผนใช้ AI โจมตีดาวเทียม Starlink-SpaceX ตัดการสื่อสาร สกัด 'สหรัฐฯหนุนไต้หวัน'
15-1-2025
จีนเปิดเผยความก้าวหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อต่อกรกับเครือข่ายดาวเทียม Starlink ของ SpaceX โดยใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เลียนแบบพฤติกรรมการล่าของวาฬ สะท้อนการเตรียมความพร้อมสำหรับความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในช่องแคบไต้หวัน
South China Morning Post (SCMP) รายงานว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์จีนภายใต้การนำของ หวู่ ยุนฮัว ผู้อำนวยการแผนกควบคุมการบินและอวกาศ มหาวิทยาลัยการบินและอวกาศหนานจิง ได้พัฒนาระบบที่สามารถใช้ดาวเทียมเพียง 99 ดวงในการเข้าถึงและติดตามดาวเทียม Starlink ได้เกือบ 1,400 ดวงภายในเวลาเพียง 12 ชั่วโมง
ผลงานวิจัยซึ่งได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Systems Engineering and Electronics ของจีน ระบุว่าระบบดังกล่าวใช้อัลกอริธึม AI แบบไบนารีรูปแบบใหม่ที่เลียนแบบวิธีการล่าเหยื่อของวาฬ โดยศูนย์ควบคุมภาคพื้นดินสามารถประมวลผลและวางแผนปฏิบัติการได้ภายในเวลาไม่ถึง 2 นาที
การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ได้รับการสนับสนุนทางการเงินอย่างมีนัยสำคัญจากรัฐบาลและกองทัพจีน โดยมีสถาบันเทคโนโลยีฮาร์บินร่วมในโครงการด้วย มุ่งเป้าไปที่การตรวจสอบและติดตามสถานะการทำงานของดาวเทียม Starlink ที่ติดตั้งระบบเลเซอร์ ไมโครเวฟ และอุปกรณ์สำหรับการลาดตระเวนและติดตาม
นอกจากนี้ จีนยังพัฒนาเทคโนโลยีหลากหลายรูปแบบเพื่อต่อต้านเครือข่าย Starlink ที่มีดาวเทียมกว่า 2,300 ดวง รวมถึงอาวุธไมโครเวฟกำลังสูง Relativistic Klystron Amplifier (RKA) และเลเซอร์แบบโซลิดสเตทที่ติดตั้งบนดาวเทียม ไปจนถึงเลเซอร์เอกซ์เรย์ที่สามารถทำลายดาวเทียมได้หลายดวงในการโจมตีครั้งเดียว
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีที่มาจากการที่ Starlink แสดงศักยภาพทางทหารอย่างชัดเจนในสงครามยูเครน โดยช่วยเพิ่มความเร็วในการรับส่งข้อมูลของโดรนและเครื่องบินรบสเตลท์ของสหรัฐฯ ได้ถึง 100 เท่า และมีบทบาทสำคัญในความสำเร็จของยูเครน รวมถึงกรณีการจมเรือลาดตระเวน Moskva ของรัสเซีย
ในขณะเดียวกัน ไต้หวันได้เริ่มพัฒนาระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) ของตนเอง หลังพบจุดอ่อนของระบบสื่อสารผ่านสายเคเบิลใต้น้ำ 15 เส้นที่รับส่งข้อมูลกว่า 99% ของการสื่อสารระหว่างประเทศทั้งหมด โดยล่าสุดมีกรณีเรือ Shunxin-39 ของจีนถูกกล่าวหาว่าตัดสายเคเบิลสื่อสารใกล้ท่าเรือจีหลง แม้เรือลำดังกล่าวจดทะเบียนในแคเมอรูน แต่เป็นของบริษัทในฮ่องกงที่มีชาวจีนเป็นเจ้าของ
Marc Julienne นักวิเคราะห์จากสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของฝรั่งเศส (IFRI) ระบุว่า แม้โครงการดาวเทียมของไต้หวันจะมีความทะเยอทะยาน แต่ยังเผชิญความท้าทายหลายด้าน ทั้งการขาดเทคโนโลยีสำหรับการปล่อยดาวเทียมในประเทศ ซึ่งต้องรอถึงปี 2571 สำหรับการทดสอบครั้งแรก การขาดประสบการณ์ด้านการสื่อสารอวกาศ และการแข่งขันแย่งชิงบุคลากรที่มีความสามารถกับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า
นอกจากนี้ การพัฒนาโครงการอวกาศของไต้หวันยังต้องระมัดระวังความอ่อนไหวทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะการรักษาสมดุลระหว่างการใช้งานเพื่อพลเรือนและการหลีกเลี่ยงการใช้งานทางทหารที่อาจถูกมองว่าเป็นการยั่วยุ
---
IMCT NEWS
China seeks to preempt any advantage Starlink could provide in a Taiwan war. Conceptual Image: Facebook
ที่มา https://asiatimes.com/2025/01/china-plans-to-blow-starlink-out-of-the-sky-in-a-taiwan-war/