Thailand
'ความขัดแย้งเก่า-วิกฤตใหม่' ส่องชะตากรรมอิสราเอลปี'25 หลัง 'ทรัมป์' กลับสู่อำนาจ เนทันยาฮูสั่นคลอน
13-1-2025
นักวิเคราะห์ชี้อนาคตอิสราเอลในปี 2025 ยังเผชิญความท้าทายรอบด้าน แม้การกลับมาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการทูต แต่ภัยคุกคามจากอิหร่านและกลุ่มฮูตียังคงเป็นปัจจัยกดดันสำคัญ
ดร.อิมาด ซาลามีย์ นักวิเคราะห์จากเบรุต ประเมินว่า การเปิดแนวรบใหม่ในปี 2025 มีความเป็นไปได้น้อย เนื่องจากการหยุดยิงกับฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนยังคงมีผล ขณะที่ความขัดแย้งกับซีเรียเริ่มคลี่คลายภายใต้รัฐบาลใหม่ที่ต้องการการยอมรับจากนานาชาติ อีกทั้งการกลับมาของทรัมป์จะช่วยเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ-อิสราเอล รวมถึงผลักดันข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านที่ได้รับการสนับสนุนจากยุโรป
อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์โคบี ไมเคิล นักวิจัยอาวุโสจากสถาบันเพื่อการศึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในเทลอาวีฟ มองว่าอิสราเอลจำเป็นต้องทำให้อิหร่านอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญ และคาดว่าปี 2025 จะเห็นความสัมพันธ์ระหว่างซาอุดีอาระเบียและอิสราเอลพัฒนาขึ้นภายใต้ข้อตกลงอับราฮัมที่ขยายออกไป
ด้านการเมืองภายใน นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูกำลังเผชิญความท้าทายสำคัญ 2 ประการ คือ ความตึงเครียดกับกองทัพที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วน และปัญหากับพันธมิตรกลุ่มอัลตราออร์โธดอกซ์ที่ได้รับการยกเว้นจากภาระสงคราม ซึ่งสร้างความไม่พอใจในสังคมอิสราเอล
ที่น่ากังวล คือในปี 2024 อิหร่านได้แสดงศักยภาพในการโจมตีอิสราเอลด้วยโดรนและขีปนาวุธ เมื่อมีการละเมิดเส้นแดงของเตหะราน และคาดว่าขีดความสามารถนี้จะเพิ่มขึ้นในปี 2025 ขณะที่ภาพลักษณ์ระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอลได้รับความเสียหายอย่างหนัก
นอกจากนี้ กลุ่มฮูตีในเยเมนยังคงเป็นภัยคุกคามสำคัญ แม้จะถูกโจมตีจากอิสราเอล สหรัฐฯ และอังกฤษ แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรน รวมถึงการปิดล้อมเส้นทางเดินเรือในทะเลแดง
ท้ายที่สุด ผลกระทบจากการโจมตีฉนวนกาซาที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 47,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวปาเลสไตน์ และข้อกล่าวหาเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จากแอฟริกาใต้และอีกกว่า 10 ประเทศ อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของอิสราเอลไปอีกหลายปี แม้ว่าทรัมป์จะพยายามผลักดันข้อตกลงอับราฮัม+ของทรัมป์ก็ตาม
---
IMCT NEWS
© Copyright 2020, All Rights Reserved