สหรัฐฯ ประเมินค่าทองคำใหม่ หลัง 'รมต.คลัง ยกเลิกแผนสำรองเงินดิจิทัล' ชี้ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์หลัก

19-8-2025

   Money Metals รายงานว่า ข่าวลือเรื่องการประเมินค่าทองคำใหม่ของสหรัฐอมริการได้กลายเป็นประเด็นร้อนในสื่อการเงินเมื่อเร็วๆ นี้ โดยสถานการณ์ปัจจุบันชี้ให้เห็นชัดเจนว่านักการเมืองอมริกันไม่มีความสนใจที่จะใช้ทองคำสำรองของประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ดั้งเดิมแต่อย่างใด แทนที่จะได้รับความโปร่งใส ประชาชนอมริกันกลับได้รับเพียงการหลอกลวงและการบิดเบือนข้อมูล

แม้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐบาลอาจชี้ไปที่ปริมาณทองคำสำรองจำนวนมหาศาลและพูดถึงความมั่นใจที่ทองคำเหล่านั้นสร้างขึ้น แต่พวกเขาไม่ต้องการให้มีข้อจำกัดใดๆ ต่อความสามารถในการกู้ยืมและใช้จ่ายเงิน ไม่มีใครในวอชิงตันที่กำลังพูดถึงการทำให้ธนบัตร Federal Reserve Note กลับคืนสู่สภาพเป็นเหรียญดอลลาร์แท้จริงที่สามารถแลกเปลี่ยนกับทองคำหรือเงินได้

บิทคอยน์ (Bitcoin) ปะทะ ทองคำ

หนึ่งในข้อเสนอที่เคยมีการพูดถึงคือการใช้เงินดอลลาร์ที่เพิ่งพิมพ์ใหม่เพื่อสร้าง "เงินสำรองบิทคอยน์เชิงยุทธศาสตร์" (Strategic Bitcoin Reserve)

กลุ่มผู้สนับสนุนและนักเก็งกำไรต่างหวังว่ารัฐบาลกลางจะเข้าสู่ตลาด Bitcoin ด้วยเงินเกือบสามในสี่ของล้านล้านดอลลาร์เพื่อใช้จ่าย ซึ่งจะช่วยผลักดันราคาให้สูงขึ้นและมอบความชอบธรรมให้สกุลเงินดิจิทัลนี้ในฐานะสินทรัพย์ "สำรอง"

   อย่างไรก็ตาม นายสก็อต เบสเซนต์ (Scott Bessent) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ออกมาสกัดแนวคิดดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้บางส่วนในชุมชน Bitcoin รู้สึกเหมือนถูกหักหลัง เนื่องจากก่อนหน้านี้ในเดือนกรกฎาคม 2024 นายโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ซึ่งเป็นผู้สมัคร ได้เคยประกาศเจตนารมณ์ที่จะสร้างเงินสำรองดังกล่าวในการประชุม Bitcoin ที่แนชวิลล์ (Nashville)

  นายเบสเซนต์ได้เสนอแนวคิดที่แตกต่างออกไปในเดือนกุมภาพันธ์ โดยเขาแนะนำว่ารัฐบาลสามารถ "แปลงสินทรัพย์ในงบดุลของสหรัฐฯ ให้เป็นเงิน" (monetize the asset side of the U.S. balance sheet)

  บางคนคาดการณ์ว่านั่นหมายถึงสหรัฐฯ อาจสร้างรายได้จำนวนมหาศาลด้วยการประเมินมูลค่าทองคำสำรองอย่างเป็นทางการ ซึ่งปัจจุบันถูกบันทึกไว้ในบัญชีด้วยราคา 42.22 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ในขณะที่หลายประเทศอย่างนอร์เวย์ (Norway) และซาอุดีอาระเบีย (Saudi Arabia) กำลังจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (sovereign wealth funds) โดยนำเงินสาธารณะไปลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียน, แหล่งน้ำมัน, อสังหาริมทรัพย์ และสินทรัพย์อื่น ๆ

  เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลทรัมป์ได้เสนอว่ารัฐบาลสหรัฐฯ อาจเข้าถือหุ้นโดยตรงในบริษัทผลิตชิป Intel ซึ่งราคาหุ้นได้ซบเซามานานหลายปี ไม่มีคำถามเลยว่าการเคลื่อนไหวเช่นนี้จะส่งผลดีต่อราคาในสินทรัพย์ใดก็ตามที่เจ้าหน้าที่ตัดสินใจซื้อ แต่มีคำถามมากมายว่าข้าราชการและนักการเมืองควรจะเป็นผู้เลือกผู้ชนะและผู้แพ้หรือไม่

เกมหลอกตา

ในขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังมีอำนาจที่จะกำหนดมูลค่าใด ๆ ที่พวกเขาต้องการให้กับทองคำสำรองของประเทศได้ มูลค่าปัจจุบันถูกกำหนดไว้ที่ 42.22 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ – ซึ่งคิดเป็นประมาณ 1 ใน 80 ของมูลค่าทองคำในปัจจุบัน

พวกเขาสามารถกำหนดมูลค่าทองคำได้อย่างง่ายดายที่ 275,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ – ซึ่งสูงกว่ามูลค่าปัจจุบันถึง 80 เท่า – แม้ว่าการกระทำนี้จะมีความหมายเพียงเล็กน้อย เว้นแต่กระทรวงการคลังจะใช้ตัวเลขนี้ในการทำธุรกรรมหรือบังคับให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) ออกธนบัตร Federal Reserve Notes เพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับใบรับรองทองคำของสหรัฐฯ ที่ถืออยู่

มูลค่ารวมของทองคำในรูปธนบัตร Federal Reserve Note จะพุ่งขึ้นอย่างกะทันหันไปเกิน 40 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าจำนวนเงินที่จำเป็นต้องใช้เพื่อชำระหนี้สาธารณะทั้งหมดของประเทศ

 แต่สิ่งนั้นจะไม่เกิดขึ้น ทำไม? เพราะมันจะทำให้ผู้คนหันมาสนใจปัญหาที่แท้จริง

  มูลค่าของทองคำไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่เป็นมูลค่าของเงินที่ล่มสลาย เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักการเมืองฝ่ายซ้ายจัดได้เสนอการทำเหรียญแพลตินัม โดยแต่ละเหรียญมีมูลค่าหน้าตรา 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งกระทรวงการคลังจะแลกเปลี่ยนที่ Fed เพื่อช่วยชำระหนี้หรือเป็นเงินทุนสำหรับการขาดดุล

   เป็นเพียงเรื่องของเวลาก่อนที่ประชาชนจะตระหนักถึงการหลอกลวงที่เป็นระบบการเงินปัจจุบันของเรา  มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่สาธารณชนจะตระหนักว่าระบบการเงินในปัจจุบันของเราเป็นเพียงเรื่องหลอกลวงที่ไร้สาระ

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.moneymetals.com/news/2025/08/18/funny-money-gold-revaluation-bitcoin-reserve-and-other-shell-games-004277