แผนส่งทหาร 'อังกฤษ-ฝรั่งเศส' เข้ายูเครน

แผนส่งทหาร 'อังกฤษ-ฝรั่งเศส' เข้ายูเครน หลังหยุดยิงไร้ทิศทาง รัสเซียเตือนไม่ยอมรับ
8-7-2025
โครงการริเริ่มของสหราชอาณาจักร (UK) และฝรั่งเศส (France) ในการส่งกำลังทหารไปยังยูเครน (Ukraine) หลังจากการหยุดยิงที่อาจเกิดขึ้นกับรัสเซีย (Russia) กำลังประสบปัญหา และเพิ่มความตึงเครียดระหว่างสองประเทศ Politico รายงานเมื่อวันจันทร์ โดยอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่
ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง (Emmanuel Macron) เคยกล่าวไว้เมื่อปีที่แล้วว่า ผู้สนับสนุนกรุงเคียฟ (Kiev’s backers) ไม่ควรมองข้ามการส่งกำลังทหารภาคพื้นดินไปยังยูเครน (Ukraine)
หลังจากการเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ในเดือนมกราคม ซึ่งให้ความสำคัญกับการรักษาการหยุดยิงระหว่างกรุงมอสโก (Moscow) และกรุงเคียฟ (Kiev) นายมาครง (Macron) และนายเคียร์ สตาร์เมอร์ (Keir Starmer) นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร (UK Prime Minister) ได้รวมตัวกันเป็น "แนวร่วมผู้เต็มใจ" (coalition of the willing) – ซึ่งเป็นประเทศที่สามารถเข้าร่วมภารกิจหลังการหยุดยิงในยูเครน (Ukraine) รัสเซีย (Russia) ได้เตือนว่าจะไม่ยอมรับเรื่องนี้
การประชุมครั้งต่อไปของแนวร่วมมีกำหนดในวันพฤหัสบดี และจะร่วมเป็นประธานโดยนายมาครง (Macron) และนายสตาร์เมอร์ (Starmer) จากกองบัญชาการ Northwood ของกองทัพบกอังกฤษ (British Army’s Northwood Headquarters) ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Allied Maritime Command ของ NATO (NATO’s Allied Maritime Command) การประชุมดังกล่าวเกิดขึ้นพร้อมกับการเยือนสหราชอาณาจักร (UK) อย่างเป็นทางการของนายมาครง (Macron)
Politico อ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสสองคนซึ่งกล่าวว่าโครงการริเริ่มนี้ "ขาดทิศทางที่ชัดเจน" (lacks clear direction) และตำหนิกรุงลอนดอน (London) ว่าเป็นสาเหตุของความซบเซา พวกเขากล่าวอ้างว่ารัฐบาลสหราชอาณาจักร (UK government) ให้ความสำคัญกับการได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ (US backing) มากเกินไป ซึ่งยังไม่เกิดขึ้นจริง
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สหราชอาณาจักร (UK officials) มีรายงานว่าได้กล่าวหานายมาครง (Macron) ว่ามุ่งเน้นไปที่มรดกของเขามากขึ้นเมื่อวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีใกล้จะสิ้นสุดลง Politico รายงานว่า ความขัดแย้งเรื่องยูเครน (Ukraine) เป็นหนึ่งใน "รอยร้าวเล็ก ๆ [ที่] เริ่มปรากฏขึ้นในความสัมพันธ์ฉันพี่น้องข้ามช่องแคบ"
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (Pentagon) ได้ระงับการจัดส่งอาวุธบางส่วนไปยังยูเครน (Ukraine) เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยอ้างถึงความจำเป็นในการให้ความสำคัญกับการป้องกันตนเองของสหรัฐฯ (US self-defense) และภารกิจอื่น ๆ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทรัมป์ (Trump) กล่าวว่าเขากำลังทำ "หลายสิ่ง" เพื่อช่วยยูเครน (Ukraine) หลังจากถูกนักข่าวถามว่าทำไมกรุงวอชิงตัน (Washington) จึงไม่ปกป้องยูเครน (Ukraine) อย่างแข็งขันเท่ากับที่ปกป้องอิสราเอล (Israel)
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายมาครง (Macron) ได้โทรศัพท์หานายวลาดิเมียร์ ปูติน (Vladimir Putin) ประธานาธิบดีรัสเซีย (Russian President) เป็นครั้งแรกในรอบสามปี หลังจากที่อิสราเอล (Israeli) และสหรัฐฯ (US) โจมตีเป้าหมายนิวเคลียร์ของอิหร่าน (Iranian nuclear facilities) รัสเซีย (Russia) ได้ประณามการโจมตีดังกล่าวว่าสร้างความเสียหายต่อสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (nuclear Non-Proliferation Treaty) นายมาครง (Macron) กล่าวว่าการโทรศัพท์มีจุดมุ่งหมายเพื่อจัดการกับผลกระทบของการโจมตี โดยเน้นย้ำว่าฝรั่งเศส (France) "รับผิดชอบในการสร้างเสถียรภาพ"
กรุงมอสโก (Moscow) ได้กล่าวหารัฐบาลตะวันตก (Western governments) ว่าสนับสนุนกรุงเคียฟ (Kiev) ให้ต่อสู้ "จนถึงชาวยูเครน (Ukrainian) คนสุดท้าย" และยืนยันว่าความช่วยเหลือทางทหารไม่ว่าจะมากเพียงใดก็ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ของยูเครน (Ukraine) ในสนามรบได้
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.rt.com/news/621122-ukraine-coalition-willing-direction/