อิหร่าน อาจตอบโต้อิสราเอลด้วย 5 ยุทธวิธี

อิหร่าน อาจตอบโต้อิสราเอลด้วย 5 ยุทธวิธี จากโดรน-การยกระดับนิวเคลียร์
14-6-2025
Newsweek รายงานว่า ความเสี่ยงสงครามตะวันออกกลางทวีความรุนแรง: อิหร่านเปิดทางเลือก 5 ด้านตอบโต้การโจมตีของอิสราเอล อิหร่านได้เริ่มส่งโดรนไปยังอิสราเอลในการตอบโต้เบื้องต้นอย่างรวดเร็วต่อการโจมตีหลายระลอกที่มุ่งเป้าไปยังกองกำลังติดอาวุธและโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าการตอบโต้ที่รุนแรงยิ่งกว่านี้กำลังจะตามมา
ทางฝั่งอิสราเอล ได้ยกระดับความพร้อมของกองกำลังและประกาศ "ภาวะฉุกเฉินพิเศษ" พร้อมออกคำเตือนให้พลเรือนอิสราเอลเตรียมพร้อมรับมือกับการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรน
อายาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ได้ประกาศอย่างเด็ดขาดว่าอิสราเอลจะต้องเผชิญกับ "การลงโทษอย่างรุนแรง" โดยการตอบโต้ของอิหร่านอาจไม่เพียงมุ่งเป้าไปที่อิสราเอลเท่านั้น แต่อาจส่งผลกระทบในวงกว้างต่อภูมิภาคตะวันออกกลางและเศรษฐกิจโลก
ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงระบุว่า อิหร่านมีทางเลือกในการตอบโต้ที่ได้เตรียมการไว้แล้วหลายประการ ดังนี้
1. การโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธ
การโจมตีในรูปแบบนี้ได้เริ่มขึ้นแล้ว อิหร่านครอบครองขีปนาวุธพิสัยไกลหลายพันลูกและกองทัพโดรนที่กำลังขยายกำลังเพิ่มขึ้น ซึ่งทั้งสองประเภทมีบทบาทสำคัญในยุทธศาสตร์การตอบโต้ ในเดือนเมษายน 2024 อิหร่านได้ดำเนินการโจมตีดินแดนอิสราเอลโดยตรงเป็นครั้งแรก โดยปล่อยขีปนาวุธและโดรนกว่า 300 ลำเพื่อตอบโต้การโจมตีฐานที่มั่นของอิหร่านโดยอิสราเอล ปฏิบัติการดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถของเตหะรานในการตอบโต้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
แม้ว่าการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลก่อนหน้านี้ได้พุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานด้านขีปนาวุธของอิหร่านเพื่อจำกัดกำลังทางทหารที่กำลังพัฒนา แต่รัฐมนตรีกลาโหมของอิหร่านยืนยันว่าประเทศได้ฟื้นฟูและเสริมสร้างระบบป้องกันให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นแล้ว ส่งผลให้อิหร่านยังคงรักษาคลังแสงที่ทรงพลัง รวมถึงขีปนาวุธจำนวนมากที่มีพิสัยการยิงครอบคลุมฐานทัพของสหรัฐฯ ทั่วทั้งภูมิภาค ทั้งในอิรักและอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเผชิญหน้าที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ได้แสดงจุดยืนแยกตัวออกจากการโจมตีของอิสราเอล ซึ่งอาจก่อให้เกิดคำถามว่าสหรัฐฯ จะตกเป็นเป้าหมายในการตอบโต้ของอิหร่านหรือไม่
2. กองกำลังตัวแทน
เครือข่ายกลุ่มตัวแทนของอิหร่าน ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มฮูตีในเยเมน กองกำลังติดอาวุธในอิรัก กลุ่มปาเลสไตน์ และกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน มีขีดความสามารถในการปฏิบัติการโจมตีด้วยจรวด การก่อวินาศกรรม และปฏิบัติการลับ อย่างไรก็ตาม ขีดความสามารถในการปฏิบัติการของฮิซบอลเลาะห์ได้ลดทอนลงเนื่องจากปฏิบัติการทางทหารล่าสุดของอิสราเอลและมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพการปฏิบัติการในปัจจุบันลดลง
อย่างไรก็ดี หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ และอิสราเอลยังคงประเมินว่า การตอบโต้ผ่านกลุ่มตัวแทนเป็นปฏิกิริยาที่มีความเป็นไปได้สูงที่สุดและจะเกิดขึ้นในทันทีต่อการโจมตีอิหร่านของอิสราเอล ในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Newsweek เมื่อไม่นานมานี้ ตัวแทนระดับสูงของกลุ่มฮูตีได้ยืนยันความพร้อมที่จะสนับสนุนอิหร่านในความขัดแย้งกับอิสราเอล ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของเตหะรานในการประสานการตอบโต้อย่างรวดเร็วจากหลายแนวรบ
3. การปิดกั้นการขนส่งน้ำมันโลก
อิหร่านได้ออกคำเตือนอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับความตั้งใจที่จะขัดขวางการเดินเรือในช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญที่มีการขนส่งน้ำมันของโลกเกือบร้อยละ 20 ในแต่ละวัน เมื่อต้นปีนี้ ผู้บัญชาการจากกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) ได้แถลงว่าพวกเขาพร้อมที่จะใช้ทุ่นระเบิดทางทะเล ขีปนาวุธ เรือโจมตีความเร็วสูง และเรือดำน้ำในการคุกคามหรือปิดกั้นช่องแคบชั่วคราวหากการคว่ำบาตรทวีความรุนแรงขึ้นหรือเกิดการโจมตี
ความสามารถในการแทรกแซงการจราจรทางทะเลนี้มีศักยภาพที่จะทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและสร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจโลกโดยไม่จำเป็นต้องเริ่มความขัดแย้งเต็มรูปแบบ แสดงให้เห็นถึงอำนาจต่อรองของเตหะรานเหนือเส้นทางพลังงานที่สำคัญนี้ ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้พุ่งสูงขึ้นมากกว่าร้อยละ 10 ในช่วงเวลาอันสั้นหลังจากที่อิสราเอลโจมตีอิหร่าน
4. สงครามไซเบอร์
ปฏิบัติการไซเบอร์ของอิหร่าน รวมถึงปฏิบัติการที่ดำเนินการโดยสถาบัน Mabna ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับ IRGC ได้มุ่งเป้าโจมตีสถาบันการเงิน ระบบสาธารณูปโภค และเครือข่ายทางทหารของสหรัฐฯ และอิสราเอล ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งทางเศรษฐกิจและเชิงสัญลักษณ์ ขณะเดียวกันก็สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้อย่างสมเหตุสมผล
ล่าสุด อิหร่านอ้างว่าได้ครอบครองเอกสารลับของอิสราเอลหลายพันฉบับ ซึ่งมีรายงานว่าบรรจุข้อมูลเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิสราเอล ซึ่งเจ้าหน้าที่อิหร่านระบุว่าอาจมีนัยสำคัญต่อหลายประเทศ นอกจากนี้ แฮกเกอร์อิหร่านยังได้เพิ่มระดับการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของอิสราเอล รวมถึงระบบน้ำและพลังงาน ซึ่งบ่งชี้ถึงการพึ่งพาสงครามไซเบอร์มากขึ้นในฐานะรูปแบบหลักของการตอบโต้
5. การยกระดับด้านนิวเคลียร์
แม้ว่าอิหร่านจะยืนยันว่าไม่ได้มุ่งพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ แต่เจ้าหน้าที่ของอิหร่านได้เตือนว่าแรงกดดันหรือภัยคุกคามจากภายนอกที่ดำเนินต่อเนื่องต่อความอยู่รอดของประเทศอาจกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวไปสู่การใช้ยูเรเนียมเป็นอาวุธ อิหร่านได้ประกาศแล้วว่าจะเร่งการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมหลังจากการลงมติตำหนิในสัปดาห์นี้ที่ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ
ที่ปรึกษาอาวุโสของผู้นำสูงสุดได้ระบุว่า หากมีการนำมาตรการคว่ำบาตรกลับมาใช้อีกครั้ง หรือหากอิหร่านรับรู้ถึงภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของประเทศ อิหร่านอาจยกเลิกข้อจำกัดโดยสมัครใจและเพิ่มการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมให้ถึงระดับที่สามารถใช้ผลิตอาวุธได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะยกระดับความเสี่ยงด้านนิวเคลียร์อย่างมีนัยสำคัญในความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น
นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงระหว่างประเทศประเมินว่า การตอบโต้ของอิหร่านในครั้งนี้มีแนวโน้มที่จะรุนแรงกว่าการตอบโต้ในอดีต โดยอาจเป็นการผสมผสานยุทธวิธีหลายรูปแบบจากทั้ง 5 ทางเลือกข้างต้น ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเสถียรภาพในภูมิภาคตะวันออกกลางและเศรษฐกิจโลก
---
IMCT NEWS // Photo: dohainstitute.org/en/PoliticalStudies
ที่มา https://www.newsweek.com/how-will-iran-retaliate-israeli-attack-2084951