รัสเซียประณามการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลต่ออิหร่านอย่างรุนแรง

14-6-2025

   รัสเซียประณามการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลต่ออิหร่านอย่างรุนแรง โดยเตือนว่าปฏิบัติการดังกล่าวเสี่ยงที่จะจุดชนวนให้เกิดการปะทะที่อันตรายทั่วตะวันออกกลาง โดยในแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุว่าการโจมตีนี้ละเมิดทั้งกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ

   การโจมตีดังกล่าวดำเนินการโดยกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (IDF) ในช่วงเช้าวันศุกร์ โดยมีรายงานว่าเป้าหมายคือสถานที่ทางทหารและนิวเคลียร์ของอิหร่าน สื่อของอิหร่านระบุว่าการโจมตีทำให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงเสียชีวิตหลายราย รวมถึงพลเอก โฮเซน ซาลามี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) และพลเอก โกลาม อาลี ราชิด รองเสนาธิการกองทัพ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่านักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์อย่างน้อย 6 รายเสียชีวิตด้วย

   นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู อ้างว่าปฏิบัติการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้อิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

    การโจมตีเกิดขึ้นเพียง 48 ชั่วโมงก่อนการเจรจานิวเคลียร์รอบที่ 6 ระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน ซึ่งมีกำหนดเริ่มในวันอาทิตย์ที่โอมาน ทำให้เกิดข้อสงสัยต่อความพยายามทางการทูตที่เพิ่งฟื้นขึ้นมา

“เราขอประณามอย่างรุนแรงต่อการใช้ความรุนแรงของรัฐอิสราเอล” กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุในแถลงการณ์ “การโจมตีทางทหารโดยไม่มีการยั่วยุต่อรัฐสมาชิกของสหประชาชาติ พลเมืองของตน เมืองที่หลับใหลอย่างสงบ และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานนิวเคลียร์ เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้โดยเด็ดขาด”

   กระทรวงยังชี้ให้เห็นว่าจังหวะเวลาของการโจมตี — ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงที่มีการประชุมคณะผู้ว่าการของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) และก่อนการเจรจานิวเคลียร์รอบใหม่ — “ยิ่งตอกย้ำถึงความเย้ยหยันของสถานการณ์นี้”

“ความพยายามพหุภาคีที่บรรลุมาอย่างยากลำบากในการลดความขัดแย้งและหาทางออกเพื่อขจัดความสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับโครงการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติของอิหร่าน ถูกบ่อนทำลายและผลักกลับไปอีกขั้น” แถลงการณ์ระบุ โดยกล่าวหาอิสราเอลว่าตัดสินใจอย่างจงใจที่จะยกระดับความตึงเครียด

“มีคำเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกี่ยวกับอันตรายจากปฏิบัติการทางทหารที่คุกคามเสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาคนี้ ความรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ทั้งหมดของการยั่วยุครั้งนี้จะตกอยู่ที่ผู้นำอิสราเอล” กระทรวงกล่าวเพิ่มเติม

   กระทรวงยังกล่าวอีกว่า มอสโกกำลังติดตามการดำเนินการของ IAEA อย่างใกล้ชิด โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ของ IAEA “ก็ตกอยู่ภายใต้การโจมตีของอิสราเอลเช่นกัน” พร้อมกับพลเมืองอิหร่าน รัสเซียคาดหวังว่า IAEA จะประเมินสถานการณ์และวิเคราะห์ผลกระทบทางรังสีจากการโจมตีของอิสราเอลต่อสถานที่นิวเคลียร์ของอิหร่าน

   กระทรวงยังย้ำจุดยืนของมอสโกอีกครั้งว่า “ไม่มีทางออกทางทหาร” สำหรับประเด็นนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยยืนยันว่าความขัดแย้งนี้ “สามารถคลี่คลายได้ผ่านวิถีทางการเมืองและการทูตโดยสันติเท่านั้น”

“เราหวังว่าแนวทางนี้จะเป็นฝ่ายชนะในท้ายที่สุด เราขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้น เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์ลุกลามจนกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ”

   องค์การพลังงานปรมาณูแห่งชาติของอิหร่าน กล่าวหาว่า IAEA ร่วมมือกับอิสราเอลหลังการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านนิวเคลียร์ของประเทศ โดยตำหนิ IAEA ที่ไม่ประณามอิสราเอลว่าเป็น “สัญญาณแห่งการสูญเสียความน่าเชื่อถือขององค์กร” ตามรายงานของสำนักข่าว ISNA

   เตหะรานได้ร้องขอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจัดการประชุมฉุกเฉินหลังการโจมตีดังกล่าว ขณะที่ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี เตือนว่า อิสราเอล “ควรเตรียมรับบทลงโทษที่รุนแรง” สำหรับการโจมตีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ที่มา RT