.

ทรัมป์คืนชีพภาษีนำเข้า: ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ สั่งให้มีผลบังคับใช้ชั่วคราว
30-5-2025
ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้มีคำสั่งชั่วคราวให้ฟื้นฟูภาษีศุลกากรทั่วโลกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ศาลการค้าระหว่างประเทศได้ตัดสินให้ระงับการบังคับใช้ภาษีดังกล่าว โดยระบุว่าทำเนียบขาวใช้อำนาจเกินขอบเขตที่กฎหมายกำหนด
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ประจำเขตศาล(Federal Circuit) ได้ออกคำสั่งพักชั่วคราว (Administrative Stay) เพื่อระงับคำสั่งถาวรที่ศาลการค้าระหว่างประเทศมีขึ้นเมื่อวันพุธ โดยภาษีดังกล่าวจะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปจนถึงอย่างน้อยวันที่ 9 มิถุนายน 2025
“ฝ่ายโจทก์ที่เป็นผู้ชนะในศาลล่างจะต้องตอบคำร้องของรัฐบาลสหรัฐฯ ภายในวันที่ 5 มิถุนายน 2025” ศาลระบุ “และรัฐบาลสหรัฐฯ อาจยื่นคำชี้แจงรวมในวันที่ 9 มิถุนายน 2025”
คำตัดสินของศาลการค้าระบุว่า ทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขตที่กำหนดไว้ในกฎหมาย International Emergency Economic Powers Act (IEEPA) โดยระบุว่ารัฐบาลละเมิดกระบวนการของรัฐสภาในการประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อเก็บภาษีนำเข้า
ย้อนกลับไปในเดือนเมษายน ทรัมป์ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราพื้นฐาน 10% สำหรับสินค้าทุกชนิดที่นำเข้าสหรัฐฯ และมีอัตราที่สูงกว่าสำหรับประเทศอย่างจีน เม็กซิโก แคนาดา และกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) โดยให้เหตุผลว่าต้องการลดความไม่สมดุลทางการค้า ซึ่งต่อมาได้มีการระงับภาษีบางรายการชั่วคราวระหว่างการเจรจา
ทำเนียบขาวยื่นอุทธรณ์คำตัดสินทันที โดยโฆษกทำเนียบขาว คาโรไลน์ ลีวิตต์ ระบุว่ารัฐบาลมั่นใจว่าจะชนะในที่สุด และเตรียม “ตอบโต้ผู้พิพากษานอกแนวทาง” อย่างจริงจัง
ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาระดับสูงของทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันพฤหัสบดีว่า ทำเนียบขาวพร้อมจะยกระดับคดีขึ้นสู่ศาลฎีกาหากจำเป็น
“แม้ว่าเราจะแพ้ เราก็จะหาทางทำใหม่” เขากล่าว “และผมขอยืนยันกับชาวอเมริกันว่า นโยบายภาษีของทรัมป์ยังคงมีชีวิตอยู่ แข็งแกร่ง และจะถูกนำมาใช้เพื่อปกป้องคุณ”
คำตัดสินของศาลเมื่อวันพุธไม่กระทบกับภาษีอื่นที่ทรัมป์ใช้กฎหมายอื่นรองรับ เช่น มาตรา 232 แห่ง Trade Expansion Act of 1962 ที่เป็นฐานของการเก็บภาษี 25% สำหรับรถยนต์นำเข้า เหล็ก และอะลูมิเนียม ประธานาธิบดียังมีอำนาจภายใต้มาตรา 122 ของ Trade Act of 1974 ในการเก็บภาษีได้นานสูงสุด 150 วันในอัตราสูงสุด 15% สำหรับประเทศที่สหรัฐฯ มีดุลการค้าขาดดุลในระดับสูงอีกด้วย
IMCT News
-------------------------
Goldman และ Morgan Stanley เผยทรัมป์มีทางเลือกอื่นในการจัดเก็บภาษีศุลกากรแม้ศาลจะระงับคำสั่ง
30-5-2025
Bloomberg รายงานว่า ธนาคารเพื่อการลงทุนชั้นนำสองแห่งของวอลล์สตรีทได้เตือนว่า ผลกระทบจากคำตัดสินของศาลที่สั่งยกเลิกมาตรการภาษีศุลกากรหลายประการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อาจมีจำกัด เนื่องจากรัฐบาลยังมีช่องทางอื่นในการกำหนดภาษีนำเข้า
ไมเคิล ซีซาส หัวหน้าฝ่ายตราสารหนี้และการวิจัยเชิงประเด็นระดับโลกของมอร์แกน สแตนลีย์ ให้ความเห็นผ่านสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กเมื่อวันพฤหัสบดีว่า "ระดับภาษีศุลกากรที่เรามีเมื่อวานนี้น่าจะเป็นระดับเดียวกับที่เราจะมีในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากรัฐบาลสามารถใช้อำนาจตามกฎหมายหลายฉบับเพื่อสร้างมาตรการทดแทนขึ้นมาใหม่ได้"
ด้านอเล็ก ฟิลลิปส์ จากโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ ได้เขียนในบันทึกถึงลูกค้าเมื่อช่วงค่ำวันพุธว่า "คำตัดสินนี้ถือเป็นอุปสรรคสำหรับแผนภาษีศุลกากรของรัฐบาลและเพิ่มความไม่แน่นอน แต่อาจไม่เปลี่ยนแปลงผลลัพธ์สุดท้ายสำหรับคู่ค้าหลักส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ"
คำพิพากษาของศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ระงับการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 6.7 เปอร์เซ็นต์ที่ประกาศในปีนี้ และทำเนียบขาวอาจใช้เครื่องมือภาษีอื่นเพื่อชดเชยส่วนที่ถูกยกเลิกไป ฟิลลิปส์ ซึ่งเป็นหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์การเมืองของโกลด์แมนในสหรัฐฯ เขียนไว้ว่า "ในขณะนี้ เราคาดว่ารัฐบาลทรัมป์จะหาวิธีอื่นในการจัดเก็บภาษี"
ซีซาสมีความเห็นในทำนองเดียวกัน โดยระบุว่าอำนาจของทรัมป์ในการ "เพิ่มและยกระดับภาษี อาจจะดำเนินการได้ช้าลงเล็กน้อย แต่ยังคงมีอยู่" เขาอธิบายว่าการเจรจากับประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น มักจะต้องใช้เวลาอยู่แล้ว และในระหว่างที่การเจรจาดำเนินต่อไป รัฐบาลก็จะสามารถ "หาทางใช้อำนาจอื่นทดแทนภาษีศุลกากรที่ถูกยกเลิกไป ดังนั้น อำนาจต่อรองทั้งหมดในระหว่างการเจรจาจึงยังคงมีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ"
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ ทำเนียบขาวกำลังส่งสัญญาณว่าไม่ได้วางแผนที่จะดำเนินการด้วยเครื่องมืออื่น เควิน แฮสเซตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์ บิสซิเนสเมื่อวันพฤหัสบดีว่า "มีแนวทางต่างๆ ที่ต้องใช้เวลาสองสามเดือนในการดำเนินการ" แฮสเซตต์กล่าวว่าแนวทางเหล่านั้นรวมถึง "กระบวนการที่ได้รับการอนุมัติในอดีตหรือได้รับการอนุมัติในรัฐบาลชุดที่แล้ว แต่เราไม่ได้วางแผนที่จะดำเนินการเหล่านั้นในตอนนี้ เพราะเรามีความมั่นใจอย่างยิ่งว่าคำตัดสินนี้ไม่ถูกต้อง"
ทางเลือกอื่นสำหรับรัฐบาลทรัมป์รวมถึงการใช้มาตรการจัดเก็บภาษีตามมาตรา 232 ซึ่งหมายถึงการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก อลูมิเนียม และรถยนต์ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของประเทศ ตามการวิเคราะห์ของโกลด์แมน หากการสอบสวนที่กำลังดำเนินการทั้งหมดส่งผลให้มีการจัดเก็บภาษี 25% และถูกเพิ่มเข้าไปในการจัดเก็บภาษีตามมาตราปัจจุบัน จะทำให้มีการเพิ่มภาษีขึ้นถึง 7.6 เปอร์เซ็นต์
ศาลการค้าในแมนฮัตตัน ซึ่งพิจารณาคดีนี้โดยให้ความเห็นชอบกับกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและรัฐที่นำโดยพรรคเดโมแครต ได้ตัดสินเมื่อวันพุธว่าทรัมป์ใช้กฎหมายฉุกเฉินอย่างไม่ถูกต้องเพื่อจัดเก็บภาษีกับคู่ค้าทั่วโลก คณะผู้พิพากษาสามคนให้เวลาทีมงานของทรัมป์ 10 วันในการหยุดการเรียกเก็บภาษีศุลกากร โดยทำเนียบขาวได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินนี้ทันที
ทรัมป์ยังมีทางเลือกอื่นในการจัดเก็บภาษีศุลกากร ซึ่งรวมถึงการใช้ภาษีศุลกากรตามมาตรา 122 ที่สามารถเรียกเก็บได้สูงถึง 15% เป็นเวลา 150 วัน หรือการเริ่มการสอบสวนภายใต้มาตรา 301 แม้ว่าทางเลือกหลังจะต้องใช้เวลาในการดำเนินการนานกว่า
ฟิลลิปส์จากโกลด์แมนให้ความเห็นว่า เขาไม่คาดว่าคำตัดสินของศาลจะมีผลกระทบสำคัญต่อแพ็คเกจการคลังที่กำลังพิจารณาในรัฐสภา "เนื่องจากรายได้จากภาษีศุลกากรไม่เคยถูกนับรวมเพื่อชดเชยต้นทุนของแพ็คเกจ และสมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่ก็ไม่เคยเชื่อมโยงประเด็นทั้งสองประเด็นอย่างชัดเจน"
อย่างไรก็ตาม เขาระบุว่าภาษีศุลกากรที่ศาลตัดสินให้ยกเลิกนั้นมีแนวโน้มที่จะสร้างรายได้เกือบ 200,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งใกล้เคียงกับจำนวนเงินที่แพ็คเกจการคลังจะเพิ่มการขาดดุลงบประมาณในปีหน้า และยังมากกว่าผลกระทบในปีต่อๆ ไป "ในขณะนี้ เรายังคาดการณ์ว่ารัฐบาลทรัมป์จะหาวิธีอื่นในการจัดเก็บภาษี ดังนั้นเราจึงคาดว่ารายได้ส่วนใหญ่นี้จะยังคงเกิดขึ้นจริง" ฟิลลิปส์กล่าวสรุป
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-05-29/trump-can-offset-tariff-ruling-with-other-tools-goldman-says?fromMostRead=true
------------------------------
ทรัมป์ไม่ยอมแพ้ศึกภาษีศุลกากร นอกจากอุทธรณ์ รัฐบาลเล็งใช้กฎหมายการค้าและความมั่นคงรักษามาตรการภาษีไว้
30-5-2025
Newsweek รายงานว่า คำตัดสินของศาลสหพันธรัฐเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาได้ระงับมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรอย่างกว้างขวางทั่วโลกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลกระเพื่อมต่อตลาดการเงิน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลทรัมป์ได้ลดความสำคัญของผลกระทบระยะยาวจากคำตัดสินดังกล่าว โดยศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ระบุว่าประธานาธิบดีทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขตในการอ้างอำนาจฉุกเฉินเพื่อขึ้นภาษีศุลกากรกับพันธมิตรทางการค้าของสหรัฐฯ เกือบทั้งหมด
ทีมกฎหมายของประธานาธิบดีทรัมป์ได้ยื่นอุทธรณ์อย่างรวดเร็วและขอให้ศาลอนุญาตให้ยังคงบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรต่อไประหว่างการต่อสู้ทางกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลแสดงความเชื่อมั่นว่าคำตัดสินจะถูกกลับคำพิพากษา และชี้แจงว่ายังมีเครื่องมือทางกฎหมายอื่นๆ ที่สามารถทำให้มาตรการภาษีศุลกากรยังคงมีผลบังคับใช้ได้
เควิน ฮัสเซ็ตต์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวฟ็อกซ์ บิสซิเนส ว่าคำตัดสินดังกล่าวจะไม่ทำให้การเจรจาการค้าต้องสะดุดลง มาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีทรัมป์ได้สร้างปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรุนแรงจากนานาประเทศ และนำไปสู่การฟ้องร้องจากทั้งประเทศพันธมิตรและภาคธุรกิจของสหรัฐฯ ขณะที่แคนาดาแสดงความยินดีต่อคำตัดสินของศาล ประเทศอื่นๆ กลับมีท่าทีตอบสนองอย่างระมัดระวัง
ในส่วนของตลาดการเงิน มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี โดยนักวิเคราะห์มองว่าคำตัดสินของศาลเป็นเพียงอุปสรรคชั่วคราว แต่ยังไม่ใช่การยุติมาตรการภาษีศุลกากรอย่างสิ้นเชิง ทางเลือกอื่นของรัฐบาลทรัมป์: นอกจากการอุทธรณ์ รัฐบาลอาจพิจารณาใช้เครื่องมือทางกฎหมายอื่น เช่น มาตรา 301 ของกฎหมายการค้า หรือกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อรักษามาตรการภาษีศุลกากรบางส่วนไว้ (IMCT NEWS)
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.newsweek.com/donald-trump-administration-tariffs-blocked-news-live-updates-2078430