อุตสาหกรรมเหล็ก EU อาจกำลังเผชิญกับอนาคตที่เลวร้าย
![](../image/news/content_20250212084358.jpg)
Thailand
อุตสาหกรรมเหล็ก EU อาจกำลังเผชิญกับอนาคตที่เลวร้ายจากภาษี 'ทรัมป์'
ขอบคุณภาพจาก Mint
12-2-2025
สมาคมเหล็กแห่งยุโรป (Eurofer) คาดการณ์ว่า ภาษีนำเข้าเหล็กของสหรัฐฯ จะส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมเหล็กของสหภาพยุโรป Henrik Adam ประธานสมาคมเหล็กแห่งยุโรปกล่าวเมื่อวานนี้ (11 ก.พ.) หลังจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 ก.พ.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก 25%
"คำสั่งฝ่ายบริหารที่ลงนามโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ซึ่งเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กทั้งหมด 25% ถือเป็นการทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรุนแรงของสงครามการค้าที่เริ่มขึ้นในช่วงรัฐบาลชุดแรกของเขา คำสั่งดังกล่าวจะทำให้สถานการณ์ของอุตสาหกรรมเหล็กของยุโรปเลวร้ายลงไปอีก ส่งผลให้สภาพแวดล้อมทางการตลาดที่เลวร้ายอยู่แล้วเลวร้ายลงไปอีก" Adam กล่าว
สำหรับการส่งออกเหล็กของสหภาพยุโรปอาจลดลงถึง 3.7 ล้านตัน เนื่องจากวอชิงตันเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่เป็นอันดับสองสำหรับผู้ผลิตในยุโรป โดยคิดเป็น 16% ของการส่งออกเหล็กทั้งหมดของสหภาพยุโรปในปี 2024 ตามที่ Adam กล่าว พร้อมเสริมว่าการสูญเสียดังกล่าวไม่สามารถชดเชยได้ด้วยการส่งออกของสหภาพยุโรปไปยังตลาดอื่นได้
“ในปัจจุบัน กำลังการผลิตเหล็กส่วนเกินทั่วโลกถูกระบายออกสู่ตลาดเหล็กของสหภาพยุโรปที่เปราะบางด้วยราคาที่ถูกมาก โดยส่วนใหญ่มาจากเอเชีย แอฟริกาเหนือ และตะวันออกกลาง ส่งผลให้ไม่สามารถลงทุนในการเปลี่ยนผ่านสู่สีเขียวและในที่สุดก็ต้องเลิกใช้ภาคอุตสาหกรรมในยุโรป ในปี 2024 เพียงปีเดียว อุตสาหกรรมเหล็กของสหภาพยุโรปต้องปิดกำลังการผลิต 9 ล้านตัน และประกาศเลิกจ้างพนักงานมากกว่า 18,000 คน คำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” Adam กล่าว
เพื่อสนับสนุนผู้ผลิตเหล็กในยุโรป สหภาพยุโรปควรแก้ไขมาตรการป้องกันปัจจุบัน ซึ่งไม่มีประสิทธิภาพในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ตามมุมมองของประธาน Eurofer ส่วนมาตรการอื่นจะเป็นการขยายระบบภาษีศุลกากรที่ครอบคลุม เนื่องจากมาตรการป้องกันของสหภาพยุโรปในปัจจุบันจะสิ้นสุดลงในสิ้นเดือนมิถุนายนปีหน้า (2026)
IMCT News
© Copyright 2020, All Rights Reserved