ตลาดหุ้นเอเชียผันผวน หลัง 'ทรัมป์' ปรับเพิ่มภาษีศุลกากรเหล็ก

ขอบคุณภาพจาก INQUIRER.NET

12-2-2025

    ตลาดหุ้นทั่วเอเชียเกิดความผันผวน เมื่อวานนี้ (11 ก.พ.) หลังตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นในวันก่อนหน้า (10 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนจับตาการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังจากที่เขาลงนามในคำสั่งเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม 25% โดยเตือนว่าจะมีมาตรการเพิ่มเติมตามมา

    ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ทำตามคำมั่นในการหาเสียงของเขาในการกลับมาใช้การทูตการค้าแบบแข็งกร้าวเพื่อขอผ่อนปรนในประเด็นต่างๆ เช่น การค้า การย้ายถิ่นฐาน และการค้ายาเสพติด แต่ถึงแม้ว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวจะกระทบต่อความเชื่อมั่น หุ้นก็ยังคงทรงตัวตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง โดยลอนดอนและแฟรงก์เฟิร์ตแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันจันทร์ (10 ก.พ.) ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่ามาตรการต่างๆ จนถึงขณะนี้ยังไม่รุนแรงเท่าที่คาดไว้

อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงระมัดระวังในขณะที่ผู้ค้าเตรียมรับมือกับการประกาศครั้งต่อไปจากทำเนียบขาว โดยมอริซ ออบสต์เฟลด์ นักวิจัยอาวุโสแห่งสถาบันปีเตอร์สันเพื่อเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ กล่าวว่า "ระดับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก"

    Charu Chanana หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนของ Saxo Markets กล่าวว่า “การดำเนินการทางการค้าที่ขยายตัวเกินกว่าภัยคุกคามต่อแคนาดา เม็กซิโก และจีนในอดีต ส่งผลให้เกิดข้อจำกัดการนำเข้าและการตอบโต้รูปแบบใหม่ ซึ่งส่งสัญญาณถึงความผันผวนที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับนักลงทุน

    “ภาษีศุลกากรไม่เพียงแต่ถูกนำมาใช้เพื่อเก็บภาษีสินค้านำเข้าเท่านั้น แต่ยังถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อความมั่นคงของชาติ ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และการสร้างรายได้ ซึ่งบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงไปสู่นโยบายเศรษฐกิจระยะยาวมากกว่าข้อพิพาททางการค้าในระยะสั้น” ซึ่งเอเชียดิ้นรนเพื่อรักษาโมเมนตัมจากวันจันทร์ (10 ก.พ.) โดยฮ่องกงผันผวนระหว่างกำไรและขาดทุน ขณะที่เซี่ยงไฮ้ สิงคโปร์ และมะนิลาร่วงลง ส่วนโซล ซิดนีย์ เวลลิงตัน และไทเป พุ่งสูงขึ้น

     ความไม่แน่นอนที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของทรัมป์ทำให้ราคาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 ก.พ.) ทองคำทะลุ 2,900 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก โดยดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องในวันอังคารและแตะระดับสูงสุดใหม่เหนือ 2,938 ดอลลาร์

    ความกลัวว่ามาตรการภาษีของทรัมป์ การลดภาษี และการยกเลิกกฎระเบียบ จะจุดชนวนเงินเฟ้ออีกครั้ง และบังคับให้ธนาคารกลางสหรัฐต้องคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูง ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ โดยการอ่านค่าดัชนีราคาผู้บริโภคและผู้ผลิตในสัปดาห์นี้จะช่วยให้เห็นภาพรวมของเงินเฟ้อได้อย่างชัดเจน ขณะที่นายเจอโรม พาวเวลล์ หัวหน้าธนาคารกลางสหรัฐก็มีกำหนดจะให้การต่อสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ เช่นกัน ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะต้องพิจารณาแผนอัตราดอกเบี้ยของธนาคาร โดยคาดว่าจะมีการปรับลดสูงสุด 2 ครั้งในปีนี้

IMCT News

ที่มา https://business.inquirer.net/505968/asian-markets-swing-as-tariff-uncertainty-looms-large