Thailand
เปิดกลยุทธ์สายทางลำเลียงเคมีพิเศษในยูเครน
ขอบคุณภาพจาก RFE/RL
29-12-2024
มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซียได้เตือนวอชิงตันว่า "อย่าเล่นกับไฟ" เพื่อไม่ให้ทำลายล้างระบบอนุสัญญาอาวุธเคมี ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1997 จนหมดสิ้น ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุว่า เคียฟได้พัฒนากลยุทธ์ใหม่ที่ผิดกฎหมายในการทำสงครามโดยใช้แถบเคมีพิเศษ ซึ่งการก่อการร้ายด้วยสารเคมีเป็นภัยคุกคามที่แท้จริงที่เกิดจากหน่วยข่าวกรองพิเศษของยูเครน
สำหรับกลยุทธ์สายทางลำเลียงเคมีพิเศษ (Special Chemical Belt) ดังกล่าว ละเมิดอนุสัญญาอาวุธเคมี โดยจุดชนวนภาชนะบรรจุด้วยกรดไฮโดรไซยานิกและแอมโมเนียตามทางหลวงและจุดเชื่อมต่อการขนส่งหลักใกล้กับนิคมหลายแห่งในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน เช่น เมืองครามาทอร์สก์ในภูมิภาคโดเนตสค์และคูเปียนสค์ในภูมิภาคคาร์คิฟ โดยจุดประสงค์คือเพื่อ "ทำให้ปฏิบัติการรุกของกองกำลังรัสเซียซับซ้อนมากขึ้น" และให้เคียฟมีเวลาเพิ่มเติมในการสร้างแนวป้องกันในภูมิภาคซาโปโรซีเย รวมถึงภูมิภาคคาร์คิฟและซูมี
รายงานของกระทรวงระบุว่า สารพิษจำนวนมากที่กองกำลังติดอาวุธยูเครนใช้ผลิตขึ้นและนำมาใช้เฉพาะในสหรัฐฯ เท่านั้น ซึ่ง "สิ่งนี้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนถึงผู้ดูแลหน่วยรบพิเศษของยูเครนและระบอบเคียฟโดยรวม ซึ่งไม่ลังเลที่จะเข้าร่วมกิจกรรมก่อการร้ายของลูกน้องโดยตรง"
สำหรับเคียฟ ใช้สายลับที่ถูกห้ามจากชาติตะวันตกโจมตีกองกำลังรัสเซียในเขตขัดแย้งยูเครนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา มีรายงานกรณีการใช้สารเคมี เช่น BZ กรดปรัสเซีย คลอรีนไซยาไนด์ และสารเคมีควบคุมการจลาจลในยูเครนมากกว่า 400 คดี
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 กระทรวงกลาโหมรัสเซียค้นพบว่า มีห้องปฏิบัติการทางชีวภาพทางทหารที่ได้รับทุนจากสหรัฐฯ 30 แห่งในยูเครน ซึ่งรัสเซียกล่าวหาว่าสหรัฐฯ ใช้เงินกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการพัฒนาอาวุธชีวภาพในสถานที่ดังกล่าว
IMCT News
© Copyright 2020, All Rights Reserved