สหรัฐฯ จ่าย$20,000 ล้าน เข้ากองทุนเงินกู้เพื่อยูเครน ใช้ดอกเบี้ยจากทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกอายัดเป็นหลักประกัน
ขอบคุณภาพจาก U.S. Embassy in Romania
11-12-2024
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวานนี้ (10 ธ.ค.) ว่าได้จ่ายเงินกู้ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับยูเครน โดยมีดอกเบี้ยจากทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกอายัดเป็นหลักประกัน โดยเงินจำนวนดังกล่าวซึ่งครอบคลุมการขาดดุลของเคียฟประมาณครึ่งหนึ่งในปัจจุบัน เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงเงินกู้ 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของกลุ่มประเทศ G7
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า เงินจำนวนดังกล่าวถูกจ่ายเข้ากองทุนธนาคารโลกซึ่งจะโอนไปยังเคียฟ โดยสหภาพยุโรปจะสมทบเงินอีก 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เข้ากองทุนนี้ ขณะที่สมาชิกกลุ่ม G7 อย่างอังกฤษ ญี่ปุ่น และแคนาดา จะสมทบอีก 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ รวมเป็นเงิน 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ยูเครนจะต้องชำระคืนตามทฤษฎีภายใน 40 ปี
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ รับรองว่าทรัมป์จะไม่สามารถยกเลิกหรือแก้ไขเงื่อนไขได้ โดยส่งมอบเงินก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่จะเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม (2025) ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยกดดันให้ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เจรจาข้อตกลงสันติภาพกับมอสโก
เมื่อสัปดาห์ก่อน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้อนุมัติแพ็คเกจความช่วยเหลือทางการทหารมูลค่า 725 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับยูเครน และกำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมต่อรัสเซีย
“ประธานาธิบดีไบเดนได้ให้คำมั่นว่าจะผลักดันให้เงินทุกดอลลาร์ที่เรามีอยู่ออกไประหว่างนี้จนถึงวันที่ 20 มกราคม” แอนโธนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศกล่าวเมื่อเดือนก่อน (พ.ย.2024)
ด้านเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่าการโอนสินเชื่อมูลค่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ “จะให้การสนับสนุนยูเครน” และ “จะช่วยให้มั่นใจได้ว่ายูเครนมีทรัพยากรที่จำเป็นในการสนับสนุนบริการฉุกเฉิน โรงพยาบาล และรากฐานอื่นๆ ของการต่อต้านอย่างกล้าหาญ”
ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา รัฐบาล กองทัพ และบริการสาธารณะของยูเครนต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากต่างประเทศโดยสิ้นเชิง และต้นทุนในการรับมือความขัดแย้งกับรัสเซียทำให้การเงินของประเทศอยู่ในภาวะสับสนวุ่นวาย
ขณะเดียวกัน เมื่อเดือนที่แล้ว เซเลนสกีได้ลงนามในกฎหมายเกี่ยวกับงบประมาณแผ่นดินสำหรับปีหน้าของประเทศ งบประมาณดังกล่าวคาดว่าจะมีรายได้ 49,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และรายจ่าย 87,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ขาดดุลรวมอยู่ที่ 38,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เงินกู้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ ครอบคลุมการขาดดุลเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น จะได้รับการชำระคืนโดยใช้ดอกเบี้ยที่ได้รับจากสินทรัพย์ของรัฐบาลรัสเซียที่ถูกระงับการเคลื่อนไหว สินทรัพย์มูลค่าประมาณ 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เป็นของธนาคารกลางรัสเซียถูกระงับโดยสหรัฐฯ และพันธมิตร หลังจากความขัดแย้งในยูเครนทวีความรุนแรงขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2022
ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เตือนว่าการยึดสินทรัพย์ของรัสเซียจะบั่นทอนความเชื่อมั่นของทั่วโลกที่มีต่อสหรัฐฯ และพันธมิตร ในขณะที่เครมลินได้ประณามการระงับสินทรัพย์ดังกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเป็น "การโจรกรรม" และโต้แย้งว่าการดึงเงินจากกองทุนเหล่านี้ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายและถือเป็นบรรทัดฐานที่อันตราย
IMCT News
ที่มา https://www.rt.com/news/609160-us-loan-ukraine-assets/