อังกฤษปลดทูตประจำสหรัฐอเมริกาเพราะมีความสัมพันธ์ฉาวกับเจฟฟรีย์ เอ็พสไตน์

12-9-2025

   อังกฤษได้ถอนตัว ลอร์ด ปีเตอร์ แมนเดลสัน ในตำแหน่งเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำสหรัฐฯ หลังจากที่อีเมลใหม่ ๆ เปิดเผยความสัมพันธ์ของเขากับเจฟฟรีย์ เอ็พสไตน์ นักการเงินผู้ร้ายคดีล่วงละเมิดทางเพศ อดีตเศรษฐีผู้มีคดีติดตัว กล่าวโดยกระทรวงการต่างประเทศเมื่อวันพฤหัสบดี

  ในอีเมลที่สื่ออังกฤษเผยแพร่เมื่อวันพุธ แมนเดลสันแสดงการสนับสนุนเอ็พสไตน์ อย่างแรงกล้า หลังจากที่เอ็พสไตน์ถูกตั้งข้อหาโดยคณะลูกขุนใหญ่ในคดีล่วงละเมิดทางเพศ โดยเขาให้ความมั่นใจกับผู้ร้ายชื่อดังว่า “เพื่อนอยู่กับคุณและรักคุณ”

  “อีเมลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าความลึกซึ้งและขอบเขตความสัมพันธ์ของปีเตอร์ แมนเดลสัน กับเจฟฟรีย์ เอ็พสไตน์ นั้นแตกต่างโดยสิ้นเชิงจากที่รู้ในขณะที่มีการแต่งตั้งเขา” กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษกล่าว พร้อมเสริมว่า “ข้อเสนอแนะของแมนเดลสันว่า การตัดสินคดีแรกของเอ็พสไตน์นั้นไม่ยุติธรรมและควรถูกท้าทาย เป็นข้อมูลใหม่”

   การเผยแพร่เนื้อหาอีเมลนี้เป็นจุดตัดสินท้ายสุดสำหรับแมนเดลสัน ซึ่งก่อนหน้านี้กำลังเผชิญปัญหาจากข่าว “หนังสือวันเกิดครบรอบ 50 ปี” ของเอ็พสไตน์ หนังสือเล่มใหญ่ที่จัดทำโดยกีซเลน แมกซ์เวลล์ ผู้ช่วยเก่าแก่ของเอ็พสไตน์ ซึ่งมีข้อความจากผู้รู้จักและเพื่อนของเอ็พสไตน์ รวมถึงจดหมายยาว 10 หน้าจากอดีตทูตอังกฤษ

   จดหมายนั้น ซึ่งแทรกรูปถ่าย มีการบรรยายเอ็พสไตน์ว่าเป็น “เพื่อนที่ดีที่สุดของผม” (“my best pal”) และเป็นคนที่ “ฉลาด หน้าตาคมคาย” และ “ลึกลับ”

“คุณใช้เวลาหลายชั่วโมงเพียงแค่รอให้เขาปรากฏตัว... และมักจะไม่ทันที่คุณจะเคยชินกับการมีเขาอยู่ข้าง ๆ ก็ต้องอยู่คนเดียวอีกครั้ง... เหลือไว้แค่เพื่อน ‘แปลก ๆ’ ให้บันเทิงแทน” บางส่วนของจดหมายระบุไว้เช่นนั้น

   หลังการปรากฏตัวของ “จดหมายรัก” (“love letter”) นายกรัฐมนตรีคีร์ สตาร์เมอร์ ก็สนับสนุนแมนเดลสันอย่างแข็งขัน กล่าวว่าแมนเดลสันมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์สหราชอาณาจักร–สหรัฐฯ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แมนเดลสันได้แสดงความเสียใจหลายครั้งที่เคยพบกับเอ็พสไตน์ และยอมรับหลังการเผยแพร่อีเมลว่าเขาเจอกันกับเอ็พสไตน์ “นานกว่าที่ควรจะเป็น” และเรียกตัวเองว่าเป็นเหยื่อของ “อาชญากรที่มีเสน่ห์และเป็นคนโกหก”

   การตกจากตำแหน่งของทูตเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะมีกำหนดเดินทางเยือนรัฐสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการเป็นครั้งที่สอง

IMCT News