ฝรั่งเศสเดือด! ม็อบรับนายกฯใหม่

ฝรั่งเศสเดือด! ม็อบรับนายกฯใหม่ ประท้วงใหญ่ต้านวิกฤตหนี้ฯ-เศรษฐกิจ หวั่นสูญอำนาจให้สหรัฐฯ-จีน
12-9-2025
SCMP รายงานว่า เกิดเหตุการณ์ประท้วงครั้งใหญ่ทั่วฝรั่งเศสซึ่งตรงกับพิธีรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เซบาสเตียง เลอคอร์นู (Sebastien Lecornu) สะท้อนความไม่พอใจรุนแรงต่อวิกฤตเศรษฐกิจรอบใหม่และข้อเสนอลดงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาหนี้สาธารณะที่สูงเกือบ 114% ของ GDP ท่ามกลางกระแสความกังวลว่าฝรั่งเศสกำลังเสื่อมลงและสูญเสียอำนาจทางเศรษฐกิจโลกให้กับสหรัฐฯและจีน
ภาพของแนวเครื่องกีดขวางที่ถูกเผาไหม้ถูกฉายเคียงข้างกับพิธีส่งมอบตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของฝรั่งเศส เซบาสเตียน เลอกอร์นู (Sebastien Lecornu) ทางช่องโทรทัศน์ฝรั่งเศสเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ขณะที่การประท้วงที่รุนแรงได้สร้างความทรงจำถึงการชุมนุมของกลุ่มประชานิยม "เสื้อกั๊กเหลือง (yellow vest)" ที่สั่นคลอนประเทศในปี 2018 และ 2019
กระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศสรายงานว่า มีผู้ประท้วงมากกว่า 175,000 คนออกมาเดินขบวนตามท้องถนนทั่วประเทศในวันเข้ารับตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีเลอกอร์นู (Lecornu) ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ห้าในรอบสองปีที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลฝรั่งเศสได้ล่มสลายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เมื่อนายฟรองซัวส์ บายรู (Francois Bayrou) นายกรัฐมนตรีคนที่สี่ในรอบสองปีต้องพ่ายแพ้การลงมติไม่ไว้วางใจในรัฐสภา ท่ามกลางการต่อต้านในวงกว้างต่อมาตรการตัดลดงบประมาณที่ออกแบบมาเพื่อควบคุมการขาดดุลงบประมาณที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป
หนี้สาธารณะของรัฐบาลฝรั่งเศสมีมูลค่าประมาณ 3.3 ล้านล้านยูโร (US$3.9 trillion) หรือคิดเป็น 114% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ณ สิ้นสุดไตรมาสแรก และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่หน่วยงานจัดอันดับความน่าเชื่อถือกำลังพิจารณาปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศในไม่ช้า
ความวุ่นวายครั้งนี้สะท้อนความกังวลที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในหมู่ชาวฝรั่งเศสจำนวนมากเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขามองว่าเป็นความเสื่อมถอยอย่างช้า ๆ ของประเทศ ซึ่งตอกย้ำความรู้สึกวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นในช่วงเวลาที่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์สูงขึ้น และเศรษฐกิจโลกถูกครอบงำโดยสหรัฐฯ และจีนมากขึ้น
“ภาษีของเรายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ในทางกลับกัน เรากลับมีบริการสาธารณะที่แย่ลงในโรงพยาบาล, โรงเรียน และโรงงานก็ยังคงปิดตัวลง” โลรองต์ โฌลี (Laurent Joly) ตัวแทนจากองค์กรสหภาพแรงงานสมาพันธ์แรงงานทั่วไป (CGT) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Post เมื่อวันอังคาร
จุดศูนย์กลางของการประท้วงคือการถกเถียงว่าใครควรมีส่วนร่วมมากขึ้นเพื่อช่วยให้รัฐบาลหลีกเลี่ยงวิกฤตหนี้สินที่กำลังจะมาถึง หนี้สาธารณะของฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 53% ระหว่างปี 2000-2024 เทียบกับการเพิ่มขึ้น 5% ในเยอรมนีและ 27% ในอิตาลีในช่วงเวลาเดียวกัน ขณะที่การขาดดุลงบประมาณของประเทศสูงถึง 5.8% ของ GDP ซึ่งเกือบสองเท่าของขีดจำกัด 3% ที่กำหนดโดยสหภาพยุโรป (European Union) ตามรายงานที่ตีพิมพ์โดยสถาบันคลังสมองหอสังเกตการณ์วัฏจักรเศรษฐกิจฝรั่งเศส
รัฐบาลต้องการเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมในขณะที่ดำเนินมาตรการการรัดเข็มขัดที่เข้มงวด, ลดการดูแลสุขภาพและเงินบำนาญ, ระงับการจ้างงานในภาครัฐ และยกเลิกวันหยุดราชการสองวัน
แม้จะยอมรับถึงความเร่งด่วนของวิกฤตหนี้สิน แต่ผู้ต่อต้านงบประมาณกล่าวว่ารัฐบาลควรพิจารณาเก็บภาษีจากคนรวยพิเศษและภาษีกำไรจากทุนและมรดกแทนที่จะบีบคั้นชนชั้นกลางและชนชั้นแรงงานอย่างต่อเนื่อง
สินทรัพย์รวมของ 500 ครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุดในฝรั่งเศสเติบโตขึ้น 14 เท่าตั้งแต่ปี 1996 ทำให้ส่วนแบ่งของพวกเขาใน GDP ของประเทศเพิ่มขึ้นจาก 6% เป็นเกือบ 40% ตามข้อมูลจากนิตยสาร Challenges และจากข้อมูลของสถาบันสถิติและเศรษฐศาสตร์แห่งชาติฝรั่งเศส (Insee) ชาวฝรั่งเศสเกือบ 10 ล้านคนใช้ชีวิตอยู่ภายใต้เส้นความยากจนในปี 2023 ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกในปี 1996
รัฐบาลฝรั่งเศสแย้งว่าการเพิ่มภาษีคนรวยพิเศษอาจกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุนและทำลายเศรษฐกิจฝรั่งเศส ค่าสัมประสิทธิ์จินี (Gini coefficient) ล่าสุดของฝรั่งเศสสำหรับความไม่เท่าเทียมกันของรายได้อยู่ที่ 0.297 ซึ่งต่ำกว่าสหรัฐฯ และจีน ซึ่งทั้งสองประเทศมีคะแนนสูงกว่า 0.4 อย่างไรก็ตาม ชาวฝรั่งเศสจำนวนมากรู้สึกหงุดหงิดและโกรธเคืองเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขามองว่าเป็นความล้มเหลวของนโยบายมานานหลายทศวรรษ โดยที่ผู้นำจากทั้งฝ่ายซ้าย, ขวา และกลาง ต่างก็มีส่วนรับผิดชอบร่วมกัน
“เรากังวลว่าฝรั่งเศสกำลังกลายเป็นเศรษฐกิจภาคบริการที่ไม่มีอุตสาหกรรม … มันนานมากแล้วที่สิ่งต่าง ๆ ไม่ได้ดีขึ้นเลย” โฌลี (Joly) กล่าว
จากข้อมูลของ Insee ระหว่างช่วงจุดสูงสุดในปี 1974 ถึงไตรมาสที่สองของปีนี้ การจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมของฝรั่งเศสลดลงมากกว่า 43% โดยมีงานอุตสาหกรรมมากกว่า 2.5 ล้านตำแหน่งหายไปในห้าทศวรรษ
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดของอุตสาหกรรมใหญ่ของฝรั่งเศสที่ถูกขายให้กับต่างชาติ ได้แก่ การขายธุรกิจพลังงานและโครงข่ายของ Alstom ให้กับบริษัทใหญ่สัญชาติอเมริกัน GE ในปี 2014 และผู้นำด้านเภสัชกรรมของฝรั่งเศสอย่าง Sanofi ที่ตกลงขายหุ้น 50% ในธุรกิจดูแลสุขภาพผู้บริโภคให้กับบริษัทไพรเวทอิควิตี้สัญชาติอเมริกัน เคลย์ตัน, ดูบิลิเยร์ & ไรซ์ (Clayton, Dubilier & Rice) เมื่อปีที่แล้ว
ในแถลงการณ์ที่แสดงการต่อต้านข้อเสนองบประมาณปัจจุบัน ซึ่งเผยแพร่หลังจากรัฐบาลล่มสลายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สหภาพแรงงาน CGT ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการกลับมาพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่
ผลสำรวจที่จัดทำโดย Ifop-Fiducial สำหรับสถานีวิทยุฝรั่งเศส Sud Radio เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ระบุว่าเกือบ 70% ของประชาชนชาวฝรั่งเศสรู้สึกสิ้นหวังกับอนาคต
นักวิเคราะห์กล่าวว่าในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศยังคงประสบปัญหา การถกเถียงที่ไม่มีวันสิ้นสุดว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบวิกฤตหนี้สินและใครควรมีส่วนร่วมมากขึ้นกำลังเพิ่มความรู้สึกสิ้นหวังในฝรั่งเศส
“มีความรับรู้ร่วมกันจากชาวยุโรปถึงความเสื่อมถอยอย่างช้า ๆ … เป็นความเข้าใจว่าเราแทบไม่มีการเติบโตเลย โดยหนี้สินที่เพิ่มขึ้นและส่วนแบ่งตลาดของบริษัทในยุโรปในโลกที่ลดลงในเกือบทุกอุตสาหกรรม” ซาชา กูร์เตียล (Sacha Courtial) นักวิจัยด้านจีนจากสถาบันคลังสมองฝรั่งเศส Institut Jacques Delors กล่าว
“หากเรายังคงมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงและเรากำลังขยายตัว ผมคิดว่าความกลัวที่เรามีจะน้อยลง เพราะเราจะมีความมั่นใจในความสามารถของเราที่จะต้านทาน”
ระหว่างการเยือนกรุงลอนดอนในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง (Emmanuel Macron) ได้เตือนว่าฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรจำเป็นต้องลดการพึ่งพาทั้งปักกิ่งและวอชิงตัน หากพวกเขาปรารถนาที่จะรักษาอนาคตที่ยั่งยืน
“ถ้าเรายังคงพึ่งพาทั้งจีนและสหรัฐฯ ผมคิดว่าเรามีมุมมองที่ชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตของเราและอนาคตของลูกหลานของเรา” เขากล่าวกับสมาชิกสภานิติบัญญัติของอังกฤษ
“ในด้านหนึ่ง (จีน) กำลังการผลิตส่วนเกินและเงินอุดหนุนอื่น ๆ เป็นภัยคุกคามที่ชัดเจนต่อการค้าที่เป็นธรรม และพวกเขากำลังทำลายเสถียรภาพของห่วงโซ่คุณค่าจำนวนมากและสร้างการพึ่งพาใหม่ ๆ ในอีกด้านหนึ่ง (สหรัฐฯ) สงครามการค้าเป็นการตัดสินใจที่ชัดเจนว่าจะไม่ปฏิบัติตาม WTO (World Trade Organization) และการค้าที่เราเคยชื่นชอบอีกต่อไป”
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.scmp.com/economy/global-economy/article/3325192/french-protests-underscore-deep-concerns-over-slow-decline-amid-us-china-dominance?module=top_story&pgtype=homepage