ทองคำแตะ 3,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ผู้เชี่ยวชาญมองราคาไม่น่าร่วงลงมาก

14-6-2025

    Kitco News  รายงานว่า ราคาทองคำทะลุแนวต้านเริ่มต้นที่ 3,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังคงแกว่งตัวในกรอบที่ต่ำกว่าระดับสูงสุดตลอดกาลในเดือนเมษายนที่ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์อยู่พอสมควร หากมองข้ามความผันผวนในระยะสั้น นักยุทธศาสตร์รายหนึ่งชี้ว่าโลหะมีค่าจะยังคงได้รับประโยชน์จากปัจจัยสนับสนุนทั้งในเชิงวัฏจักรและโครงสร้างที่เป็นบวกไปจนถึงครึ่งหลังของปี 2025

   ในการสัมภาษณ์ล่าสุดกับคิตโก นิวส์ รูคายา อิบราฮิม นักยุทธศาสตร์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ของ BCA Research กล่าวว่าพอร์ตการลงทุนจำลองของพวกเขายังคงรักษาสัดส่วนน้ำหนักเกินในโลหะมีค่า รวมถึงเงินและแพลทินัม อย่างไรก็ตาม ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์หลัก เนื่องจากโลหะมีค่าทั้งสามชนิดกำลังมีแรงส่งที่แข็งแกร่ง

   แม้ว่าเงินและแพลทินัมจะไล่ตามทองคำได้อย่างรวดเร็ว แต่อิบราฮิมชี้ว่าทองคำยังคงมีข้อได้เปรียบอย่างมีนัยสำคัญในตลาดโลหะมีค่า โดยได้กลับมาสถาปนาตัวเองเป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่สำคัญอีกครั้ง ท่ามกลางความพยายามทั่วโลกที่จะกระจายความเสี่ยงจากเงินดอลลาร์สหรัฐและพันธบัตรรัฐบาล

   อิบราฮิมอธิบายว่าความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ ซึ่งมีสาเหตุจากหนี้รัฐบาลที่ไม่ยั่งยืน กำลังช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสของทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน ในขณะเดียวกัน เธอยังชี้ให้เห็นว่าความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นใหม่ อันเนื่องมาจากการขึ้นภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และสงครามการค้าโลก ได้สร้างแรงหนุนเพิ่มเติมให้กับทองคำ ควบคู่ไปกับอุปสงค์ที่ต่อเนื่อง

"เรากำลังเห็นความสัมพันธ์ในระดับสูงระหว่างหุ้นและพันธบัตร ซึ่งกำลังสร้างแรงกดดันขาขึ้นให้กับทองคำ เนื่องจากนักลงทุนมองหาเครื่องมือกระจายความเสี่ยงแบบใหม่" เธอกล่าว "ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ทองคำมีโอกาสได้รับประโยชน์ในหลากหลายสถานการณ์"

   อิบราฮิมอธิบายว่าหากกระแส "การเทขายสินทรัพย์อเมริกา" ยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากประเทศต่างๆ สูญเสียความเชื่อมั่นในสหรัฐฯ ในฐานะพันธมิตรทางการค้าที่เชื่อถือได้ ทองคำจะยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่น่าดึงดูด แต่เธอยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่าหากกระแสนี้ซาลงและความกังวลเรื่องภาษีศุลกากรลดลง ธนาคารกลางสหรัฐจะมีพื้นที่ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสของทองคำได้อีก

"ในตอนนี้ ฉันมองหาสถานการณ์ที่ทองคำจะปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญได้ยาก" เธอกล่าว

   แม้ว่าทองคำจะถูกซื้อมากเกินไปอย่างมากในเดือนเมษายน เมื่อแรงส่งผลักดันให้ราคาพุ่งไปที่ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อิบราฮิมกล่าวว่าช่วงการแกว่งตัวในกรอบปัจจุบันได้ช่วยขจัดความร้อนแรงบางส่วนออกจากตลาด และทำให้ราคาเข้าใกล้มูลค่าที่เหมาะสมมากขึ้น

   เธอเสริมว่า เมื่อพิจารณาจากความไม่แน่นอนที่มีอยู่ เธอมองเห็นแนวรับที่แข็งแกร่งกำลังก่อตัวที่ระดับ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์

   แม้จะมีความกังวลบางประการว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในตลาดหุ้นอีกครั้งและดึงความสนใจไปจากทองคำ แต่อิบราฮิมมองว่านี่เป็นความเสี่ยงที่มีขอบเขตจำกัด

   บริษัทวิจัยที่มีฐานอยู่ในมอนทรีออลมองเห็นความเสี่ยงที่สูงขึ้นของภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งอิบราฮิมชี้ว่านั่นหมายความว่าเมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย จะเป็นเพราะความจำเป็นต้องทำ

"ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดอัตราดอกเบี้ย แต่จะเป็นการตอบสนองต่อสภาวะการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง สภาพแวดล้อมเช่นนั้นย่อมส่งผลเชิงลบต่อตลาดหุ้นอย่างแน่นอน เราค่อนข้างมองในแง่ลบต่อแนวโน้มของตลาดหุ้นเนื่องจากแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ" เธอกล่าว

   อิบราฮิมยังแสดงมุมมองเชิงบวกต่อทองคำในช่วงที่ตลาดกำลังเผชิญกับจุดเปลี่ยนสำคัญ นับตั้งแต่ปลายปี 2022 การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำส่วนใหญ่ขับเคลื่อนโดยความต้องการที่ไม่เคยมีมาก่อนจากธนาคารกลางทั่วโลก ทุนสำรองทองคำทางการได้เพิ่มขึ้น 1,000 ตันในแต่ละปีของช่วงสามปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 1,000 ตันในปี 2025 ซึ่งจะเป็นปีที่สี่ติดต่อกันของการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของทุนสำรอง

   อิบราฮิมกล่าวว่าความต้องการนี้ได้สร้างมูลค่าที่แท้จริงในตลาด ซึ่งนักลงทุนเพิ่งเริ่มตระหนักถึง

"เราไม่เพียงแต่เห็นความต้องการลงทุนที่เพิ่มขึ้น แต่มันเกิดขึ้นในขณะที่ราคายังคงซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์" เธอกล่าว "แม้ว่าราคาทองคำจะอยู่เหนือระดับ 3,000 ดอลลาร์ แต่นักลงทุนยังคงมองเห็นคุณค่าในตลาดนี้ ด้วยทุกสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในเศรษฐกิจโลก ไม่ว่าคุณจะเป็นธนาคารกลางหรือนักลงทุนรายย่อย ผู้คนกำลังเริ่มตระหนักถึงบทบาทของทองคำในฐานะเครื่องมือกระจายความเสี่ยงที่สำคัญ"

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.kitco.com/news/article/2025-06-13/gold-has-little-downside-even-prices-trade-above-3400-ounce-bcas-roukaya