.

หัวเว่ย' จีนก้าวข้าม 'มาตรการคว่ำบาตรชิปจากสหรัฐฯ ด้วยโอเพนซอร์สและเทคนิคการบรรจุชิปล้ำสมัย
13-6-2025
Fortune รายงานว่า หัวเว่ย (Huawei) ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีน ได้แบกรับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2562 (ค.ศ. 2019) เมื่อวอชิงตันประกาศห้ามบริษัทจัดหาชิ้นส่วนขั้นสูง การควบคุมการส่งออกที่ประกาศใช้ในปี 2565 (ค.ศ. 2022) ยิ่งจำกัดความสามารถของหัวเว่ยในการเข้าถึงชิปเทคโนโลยีขั้นสูง
แม้จะเผชิญแรงกดดันจากสหรัฐฯ หัวเว่ยกลับมายืนหยัดในฐานะผู้นำภาคเทคโนโลยีของจีนอีกครั้ง ด้วยความสำเร็จใหม่ๆ ในด้านสมาร์ทโฟน โปรเซสเซอร์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ผู้สังเกตการณ์ทั้งในและนอกประเทศจีนมองว่า หัวเว่ยเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าจีนสามารถประสบความสำเร็จได้ แม้จะถูกตัดขาดจากเทคโนโลยีขั้นสูงที่ผลิตในตะวันตก
อย่างไรก็ตาม เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งหัวเว่ย กำลังเตือนไม่ให้ตีความความก้าวหน้าของบริษัทมากเกินไป ในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เพิ่พเพิลส์ เดลี่ (People's Daily) ซึ่งเป็นสื่อทางการของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อวันอังคาร เหรินกล่าวว่าสหรัฐฯ กำลังประเมินความสำเร็จของหัวเว่ยเกินจริง พร้อมชี้แจงว่าชิปของบริษัทยังล้าหลังชิปของสหรัฐฯ อยู่หนึ่งรุ่น "หัวเว่ยไม่ได้ยอดเยี่ยมขนาดนั้น เราต้องทำงานหนักเพื่อให้ไปถึงระดับที่สหรัฐฯ ประเมิน" เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม เหรินปัดความกังวลที่ว่าการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ จะจำกัดการเติบโตของทั้งหัวเว่ยและภาคเทคโนโลยีของจีน
รัฐบาลของประธานาธิบดีไบเดนอ้างว่ามาตรการควบคุมการส่งออกชิปจะชะลอการพัฒนาเทคโนโลยีของจีนและรักษาความได้เปรียบของสหรัฐฯ ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น AI กฎระเบียบของสหรัฐฯ ในปัจจุบันห้ามบริษัทจีนซื้อชิปที่ล้ำสมัยที่สุด รวมถึงอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ที่จำเป็นในการออกแบบและผลิตชิปเหล่านั้น
ในทางตรงกันข้าม เหรินโต้แย้งว่าเทคนิคการบรรจุภัณฑ์และการซ้อนชิปสามารถช่วยให้บริษัทสารกึ่งตัวนำของจีนตามทันชิปที่ล้ำสมัยที่สุดได้ (การซ้อนชิปเป็นเทคนิคการรวมชิปหลายตัวเข้าด้วยกันในแพ็กเกจเดียวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน)
เหรินยังให้ความเห็นว่าสภาพแวดล้อมโอเพนซอร์สที่เติบโตขึ้นจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศในอนาคต
มีรายงานว่าบริษัทเทคโนโลยีของจีนกำลังนำ RISC-V มาใช้ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโอเพนซอร์สสำหรับการออกแบบชิป บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีนหลายแห่ง เช่น อาลีบาบา ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซ และดีพซีค (DeepSeek) บริษัทสตาร์ทอัพ ได้เปิดเผยโมเดล AI ของตนเป็นโอเพนซอร์สเช่นกัน ซึ่งช่วยให้นักพัฒนารายอื่นสามารถดาวน์โหลด ใช้งาน และปรับแต่งโมเดลได้ด้วยตนเอง สิ่งนี้ช่วยส่งเสริมการนำไปใช้อย่างแพร่หลายยิ่งขึ้น รวมถึงการใช้งานนอกประเทศจีน
การควบคุมการส่งออกกลายเป็นประเด็นสำคัญ
ความเห็นของเหรินเกิดขึ้นในช่วงที่การควบคุมการส่งออกกำลังกลายเป็นประเด็นหลักในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน เจ้าหน้าที่การค้าจากทั้งสองประเทศกำลังประชุมกันที่กรุงลอนดอนเป็นวันที่สองของการเจรจาการค้า สหรัฐฯ กล่าวหาว่าจีนตั้งใจชะลอการส่งออกแร่หายาก ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ใช้ในผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีขั้นสูงหลายประเภท รวมถึงสมาร์ทโฟนและยานยนต์
จีนครองตำแหน่งผู้นำในการผลิตแร่หายาก โดยในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ปักกิ่งได้ประกาศจำกัดการส่งออกโลหะเหล่านี้ โดยกำหนดให้บริษัทต้องขอใบอนุญาตเพื่อส่งออกแร่หายากออกนอกประเทศ มาตรการนี้กำลังสร้างปัญหาให้กับห่วงโซ่อุปทานของผู้ผลิตบางราย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์
นี่เป็นการกลับบทบาทที่น่าสนใจสำหรับสหรัฐฯ ซึ่งใช้มาตรการควบคุมการส่งออกมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อรักษาความได้เปรียบในเทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์ของตน เจ้าหน้าที่จีนวิพากษ์วิจารณ์ข้อจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีของสหรัฐฯ มาอย่างยาวนาน โดยให้เหตุผลว่ามาตรการเหล่านี้บั่นทอนกระบวนการโลกาภิวัตน์และคุกคามการพัฒนาของจีน
---
IMCT NEWS
ที่มา https://fortune.com/asia/2025/06/10/china-us-tech-controls-open-source-huawei-founder-ren-zhengfei/