ฟิลิปปินส์เงินเฟ้อพุ่งแตะ 2.9%
36 0C
Thailand
Thailand
ฟิลิปปินส์เงินเฟ้อพุ่งแตะ 2.9% ในเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา
ขอบคุณภาพจาก Philippine Daily Inquirer
9-1-2025
สำนักงานสถิติฟิลิปปินส์เปิดเผยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (7 ม.ค.) ว่าอัตราเงินเฟ้อฟิลิปปินส์ พุ่งแตะ 2.9% แล้วในเดือนธันวาคม (2024) เร็วกว่าที่บันทึกไว้เมื่อเดือนพฤศจิกายน (2024) ที่ 2.5% เนื่องจากราคาบ้านและพลังงานที่สูงขึ้น ซึ่งตัวเลขเดือนธันวาคมเร็วกว่าที่นักวิเคราะห์สำรวจโดย Inquirer ซึ่งคาดไว้ที่ 2.7% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวอยู่ในช่วงคาดการณ์ 2.3 ถึง 3.1% ของดัชนีธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (Bangko Sentral ng Pilipinas (BSP)) สำหรับเดือนนี้ (ธ.ค.2024) ส่งผลให้อัตราการเติบโตของราคาเฉลี่ยในปี 2024 อยู่ที่ 3.2% และอยู่ในกรอบเป้าหมาย 2 ถึง 4% ของธนาคารกลางเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี
เป็นที่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับต่ำแม้ว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งหมายความว่าธนาคารกลางยังมีช่องทางที่จะดำเนินวงจรการลดอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาสที่ 3 ของปี 2024
ส่วนเมื่อปีที่แล้ว (2023) ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลักที่ธนาคารมักใช้เป็นแนวทางในการกำหนดราคาสินเชื่อลงทั้งหมด 75 จุดพื้นฐาน และอีไล เรโมโลนา จูเนียร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์ ได้แสดงท่าทีว่าจะผ่อนปรนเพิ่มเติมในปีนี้ เนื่องจากสภาพทางการเงินยังคง "ตึงตัว" ถึงขนาดเสนอความเป็นไปได้ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการการเงินในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ (2025)
ในการแถลงข่าวร่วมกับประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (6 ม.ค.) ผู้บริหารด้านเศรษฐกิจกล่าวว่า ประเทศกำลังเข้าสู่ปี 2025 ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
เรโมโลนากล่าวกับประธานาธิบดีบองบองตามที่ระบุในแถลงการณ์ว่า "เรากำลังเห็นผลของความพยายามของเราในการลดอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในเป้าหมายของรัฐบาลที่ 2-4%" โดยอธิบายว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มลดลง ซึ่งบ่งชี้ว่าราคามีเสถียรภาพมากขึ้น และการลดลงที่คาดว่าจะเกิดขึ้นนี้ทำให้ BSP สามารถเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยได้ แต่อย่างไรก็ตาม เรโมโลนา ตั้งข้อสังเกตว่าการนิ่งนอนใจไม่ใช่ทางเลือก เนื่องจากยังคงมีความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ก็ยังระบุว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์บางประเภทอาจเพิ่มขึ้นเนื่องจากปัจจัยด้านอุปทาน เช่น ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ซึ่งสำหรับเรื่องนี้ ประธานาธิบดีมาร์กอสกล่าวว่า “การเตรียมตัวให้พร้อมเป็นเรื่องที่ดีเสมอ”
ขณะที่ผู้ว่าการ BSP ให้คำมั่นว่า จะมุ่งเน้นต่อไปที่ “การรักษาเสถียรภาพราคาที่เอื้อต่อการเติบโตที่สมดุลและยั่งยืนของเศรษฐกิจและการจ้างงาน”
IMCT News
