จีนจะบุกไต้หวันในปี 2025 หรือไม่?
4-1-2025
ความไม่แน่นอนกำลังปกคลุมสถานการณ์ในช่องแคบไต้หวัน เมื่อผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าจีนจะเพิ่มระดับการกดดันต่อไต้หวันในปี 2025 ขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำ "ที่คาดเดายาก" กำลังจะกลับเข้าทำเนียบขาวในเดือนนี้
Newsweek นำเสนอรายงานพิเศษว่า ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าจีนจะเพิ่มระดับความเข้มข้นในการกดดันไต้หวันในปี 2025 ท่ามกลางการกลับมาของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีท่าทีคาดเดายาก เป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดทิศทางความตึงเครียดในภูมิภาค
จีนอ้างสิทธิ์เหนือไต้หวัน เกาะที่ปกครองตนเองและเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ แม้ไม่เคยปกครองมาก่อนและไม่ยอมละทิ้งทางเลือกการใช้กำลัง โดยในปีที่ผ่านมา จีนได้จัดการซ้อมรบขนาดใหญ่รอบไต้หวันถึง 3 ครั้งในเดือนพฤษภาคม ตุลาคม และธันวาคม เพิ่มแรงกดดันทางทหารต่อเกาะแห่งนี้
แม้สหรัฐฯ มีกฎหมายกำหนดให้รักษาขีดความสามารถในการต้านการใช้กำลังในช่องแคบไต้หวัน แต่ทรัมป์ซึ่งวางตัวแข็งกร้าวกับจีน กลับส่งสัญญาณว่าอาจไม่ปกป้องไต้หวัน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของชาวไต้หวันต่อการแทรกแซงทางทหารของสหรัฐฯ ลดลงอย่างมากหลังชัยชนะของทรัมป์
เพนตากอนประเมินว่าจีนจะพยายามขัดขวางการแทรกแซงที่อาจเกิดขึ้นของสหรัฐฯ และอาจยกระดับปฏิบัติการทางไซเบอร์ อวกาศ หรือนิวเคลียร์เพื่อยุติความขัดแย้งที่ยืดเยื้อ
คิทช์ เหลียว จากแอตแลนติกเคานซิล มองว่าประเด็นสำคัญไม่ใช่ว่าจีนจะบุกหรือไม่ แต่อยู่ที่จะใช้วิธีบีบบังคับแบบใดเพื่อยึดครองไต้หวัน โดยปักกิ่งเองก็ไม่สามารถคาดเดาการตัดสินใจของทรัมป์ในภาวะวิกฤตได้ ขณะที่ไบรอัน ฮาร์ต จาก CSIS ระบุว่าผู้เชี่ยวชาญจีนบางรายเชื่อว่าแนวทางเจรจาต่อรองของทรัมป์อาจเปิดโอกาสให้บรรลุข้อตกลงได้ แต่หากจีนเพิ่มแรงกดดัน ก็จะเพิ่มโอกาสเกิดวิกฤตและความขัดแย้ง
ดร.เหลียงจื้อ อีแวนส์ เฉิน จากสถาบันวิจัยการป้องกันประเทศและความมั่นคงไต้หวัน มองว่าสี จิ้นผิง อาจต้องชะลอแผนการรุกรานแต่ไม่ทิ้งทางเลือกนี้ ทำให้ความเสี่ยงการเผชิญหน้าทางทหารเพิ่มขึ้นแน่นอน
หวู่ เซจื้อ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยจีนของสถาบันวิจัยไต้หวัน ชี้ว่าการตัดสินใจของจีนขึ้นอยู่กับปัจจัยทั้งภายในและภายนอก โดยสีอาจต้องการเบี่ยงเบนความกดดันจากปัญหาเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่ความทะเยอทะยานในการขยายกำลังทหารเพื่อเจาะกลยุทธ์หมู่เกาะของสหรัฐฯ กระตุ้นให้จีนเร่งปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยภายในปี 2027
อย่างไรก็ตาม หากจีนใช้กำลัง ก็จะเผชิญแรงกดดันจากการคว่ำบาตรระหว่างประเทศและความเสี่ยงต่อภาวะผู้นำของสี ทำให้การคำนวณต้นทุน-ผลประโยชน์ซับซ้อนยิ่งขึ้น ขณะที่ความตึงเครียดในประเด็นอื่นๆ เช่น การค้า อาจลดความไว้วางใจและส่งผลต่อสถานการณ์ไต้หวัน
คาดว่าจีนจะยังคงซ้อมรบรอบไต้หวันเพื่อแสดงความมุ่งมั่นต่อต้านการแทรกแซงของสหรัฐฯ ขณะที่ต้องจับตาว่าทรัมป์จะปรับท่าทีกองทัพในแปซิฟิกตะวันตก ซึ่งไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของแนวหมู่เกาะที่ใช้ปิดล้อมจีนในแนวเหนือ-ใต้ อย่างไร?
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.newsweek.com/will-china-invade-taiwan-2025-us-presidency-donald-trump-2008292