Thailand
เปิดประวัติ 'คีธ เคลล็อกก์' ทูตพิเศษยูเครนยุค 'ทรัมป์ 2.0'
ขอบคุณภาพจาก www.mk.co.kr
28-11-2024
โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวานนี้ (27 พ.ย.) ว่าเขาได้เสนอชื่อพลเอกคีธ เคลล็อกก์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยประธานาธิบดีและทูตพิเศษสำหรับยูเครนและรัสเซีย
“ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เสนอชื่อพลเอกคีธ เคลล็อกก์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยประธานาธิบดีและทูตพิเศษสำหรับยูเครนและรัสเซีย คีธเคยทำงานด้านการทหารและธุรกิจมาอย่างโชกโชน รวมถึงเคยดำรงตำแหน่งสำคัญด้านความมั่นคงแห่งชาติในรัฐบาลชุดแรกของเขา” ทรัมป์เขียนบน Truth Social
พลเอกคีธ เคลล็อกก์ วัย 80 ปี เป็นนายพลเกษียณอายุราชการระดับสามดาวของกองทัพสหรัฐฯ ที่ได้รับการยกย่องอย่างสูง โดยเขามีประสบการณ์ด้านการทหารและกิจการระหว่างประเทศมากมาย โดยตำแหน่งทางทหารตำแหน่งสุดท้ายของเขาก่อนเกษียณอายุราชการในปี 2003 คือ ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชาการ ควบคุม การสื่อสาร และคอมพิวเตอร์ในคณะเสนาธิการทหารร่วม ซึ่งพลเอกเคลล็อกก์ยังดำรงตำแหน่งดังกล่าวระหว่างการโจมตีด้วยอาวุธก่อการร้ายเมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2001
ล่าสุด พลเอกเคลล็อกก์ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติให้กับอดีตรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ และตำแหน่งอื่นๆ อีกหลายตำแหน่งในช่วงดำรงตำแหน่งแรกของทรัมป์ ส่วนเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา (2024) เขาร่วมเขียนงานวิจัยที่สนับสนุนการยุติความขัดแย้งในยูเครนด้วยสันติภาพ และเสนอเงื่อนไขในการจัดหาเสบียงทางทหารให้กับยูเครน โดยขึ้นอยู่กับว่าระบอบเคียฟเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพกับรัสเซียหรือไม่ พร้อมยังเรียกร้องให้ระบอบเคียฟสามารถเจรจากับรัสเซีย "จากจุดยืนที่เข้มแข็ง" และหารือถึง "การเก็บภาษีการขายพลังงานของรัสเซียเพื่อจ่ายสำหรับการฟื้นฟูยูเครน"
พลเอกเคลล็อกก์ระบุในเดือนกุมภาพันธ์ว่า การที่ทรัมป์กลับเข้าสู่ทำเนียบขาวอาจทำให้สมาชิก NATO บางส่วนซึ่งการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศไม่ถึง 2% ของ GDP ที่กำหนด จะสูญเสียสิทธิ์ในการคุ้มครองตามมาตรา 5 ในกรณีที่ถูกโจมตีจากภายนอก นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่า หากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง เขาสามารถจัดการประชุมสุดยอด NATO ในเดือนมิถุนายนปีหน้า (2025) เพื่อหารือเกี่ยวกับอนาคตของพันธมิตร ซึ่งตามที่พลเอกเคลล็อกก์กล่าว NATO อาจกลายเป็น "พันธมิตรแบบหลายชั้น" ซึ่งสมาชิกบางรายได้รับการปกป้องที่มากขึ้น
IMCT News
© Copyright 2020, All Rights Reserved