นักวิเคราะห์ชี้แผนบั่นทอนอำนาจมาดูโร ปิดล้อมน้ำมัน
นักวิเคราะห์ชี้แผนบั่นทอนอำนาจมาดูโร ปิดล้อมน้ำมันเวเนฯ เสี่ยงปั่นราคาพลังงานโลก เร่งเอเชียลดพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ
19-12-2025
ดร.วินิซีอุส วีเอรา (Vinicius Vieira) รองศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากสถาบัน Armando Alvares Penteado Foundation (FAAP) ให้สัมภาษณ์ว่า หนึ่งในเป้าหมายหลักของปฏิบัติการปิดล้อมน้ำมันเวเนซุเอลาที่นำโดยสหรัฐอเมริกา (US) คือการพยายามทำให้ประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร (Nicolás Maduro) อ่อนแอทางการเมือง และหวังจะสร้างความแตกแยกภายในกลุ่มชนชั้นนำทางการเมืองของเวเนซุเอลา
ในด้านเศรษฐกิจ เขาประเมินว่า “ความทุกข์ยากของประชาชนเวเนซุเอลามีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น” จากมาตรการปิดล้อมทางทะเลของสหรัฐฯ เนื่องจากประเทศพึ่งพารายได้จากการส่งออกน้ำมันเป็นหลัก วีเอราย้ำว่าปฏิบัติการนี้จึงไม่เพียงโจมตีรัฐบาลมาดูโรเท่านั้น แต่ยังกระทบฐานเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของคนส่วนใหญ่ในประเทศโดยตรง
นักวิชาการรายนี้ซึ่งยังสอนวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มูลนิธิ Getúlio Vargas ในบราซิล เสริมว่า ในแง่ตลาดโลกแล้ว การบล็อกน้ำมันจากหนึ่งในประเทศที่มีปริมาณสำรองน้ำมันใหญ่ที่สุดในโลกอย่างเวเนซุเอลา ย่อมมีศักยภาพที่จะส่งผลต่อราคาน้ำมันและภาวะตึงตัวของตลาดพลังงาน “เมื่อพิจารณาว่าเวเนซุเอลาถือครองปริมาณสำรองน้ำมันมากที่สุดในโลก ย่อมมีผลต่อโครงสร้างตลาด” เขากล่าว พร้อมระบุว่าคู่ค้าหลักที่พึ่งพาน้ำมันเวเนซุเอลาอาจได้รับผลกระทบโดยตรง
วีเอราอธิบายว่า เวเนซุเอลาส่งออกน้ำมันไปยังจีน (China) และตลาดเอเชียอื่น ๆ ที่มีแนวโน้ม “พึ่งพาสหรัฐฯ น้อยลงเรื่อย ๆ” สถานการณ์เช่นนี้อาจสร้างความปั่นป่วนในตลาดเอเชียบางส่วน โดยเฉพาะประเทศที่ใช้เวเนซุเอลาเป็นหนึ่งในแหล่งจัดหาพลังงานทางเลือกนอกเหนือจากสหรัฐฯ และผู้ส่งออกรายใหญ่อื่น
ภายใต้บริบทที่จีนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของเวเนซุเอลาและเป็นผู้ซื้อน้ำมันหลัก วีเอราเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเกิด “การเจรจาทางการทูตเบื้องหลังฉาก” ระหว่างปักกิ่งกับวอชิงตัน เพื่อหาทางลดผลกระทบของการปิดล้อมน้ำมันครั้งนี้ เขามองว่าความสัมพันธ์ทางการเงิน–พลังงานระหว่างจีนกับเวเนซุเอลาทำให้ปักกิ่งไม่อาจเพิกเฉยต่อความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการของสหรัฐฯ
สำหรับในมิติการเมืองภายในสหรัฐฯ วีเอราไม่แปลกใจที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ไม่กล่าวถึงเวเนซุเอลาเลยในสุนทรพจน์สรุปผลงานปลายปี โดยมองว่า ผู้นำสหรัฐฯ เลือกโฟกัสประเด็นที่ “สาธารณชนอเมริกันเข้าใจได้ง่ายกว่า” เช่น เรื่องเศรษฐกิจภายในประเทศและภาษีศุลกากร มากกว่ากล่าวถึงปฏิบัติการทางทหารและการปิดล้อมทางทะเลที่ซับซ้อน
เขาระบุด้วยว่า ทรัมป์ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียเป็นหลักในการรายงานความคืบหน้าปฏิบัติการทางทหารที่เกี่ยวข้องกับเวเนซุเอลา ทำให้การกล่าวถึงอย่างเป็นทางการในสุนทรพจน์ “ไม่จำเป็น” ในมุมมองของทำเนียบขาวปัจจุบัน และชี้ว่า นี่เป็นเหตุผลที่เวเนซุเอลาและประเด็นระหว่างประเทศส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกยกขึ้นมาอย่างเด่นชัด ยกเว้นประเด็นภาษีและการค้า
โดยรวมแล้ว วีเอราเห็นว่ามาตรการปิดล้อมน้ำมันเวเนซุเอลาเป็นเครื่องมือกดดันทางการเมืองที่มีต้นทุนสูง ทั้งต่อประชาชนเวเนซุเอลา ตลาดพลังงานโลก และโครงสร้างการพึ่งพากันของตลาดเอเชียกับสหรัฐฯ พร้อมเตือนว่าความเคลื่อนไหวนี้อาจเร่งให้บางประเทศในเอเชียหันไปพึ่งพาแหล่งพลังงานที่อยู่นอกอิทธิพลของวอชิงตันมากยิ่งขึ้น
---
IMCT NEWS
ที่มา https://sputnikglobe.com/20251218/venezuelan-oil-blockade-could-make-asias-markets-less-dependent-on-us---analyst-1123320383.html