โฆษกปูตินตอบทรัมป์ รัสเซียพร้อมเจรจาสันติภาพผ่านพันธมิตร BRICS-ตะวันออกกลาง แทนพึ่งชาติตะวันตก

9-12-2024

     ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ออกแถลงการณ์ตอบประเด็นที่โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวหลังการพบปะกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง และประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ที่กรุงปารีส โดยยืนยันว่ารัสเซียพร้อมเจรจาสันติภาพกับยูเครน และยินดีต้อนรับข้อเสนอเพื่อสันติภาพจากประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะพันธมิตร BRICS รวมถึงประเทศในตะวันออกกลางที่ทำงานด้านมนุษยธรรม

     โฆษกทำเนียบเครมลินระบุว่า เงื่อนไขการยุติการสู้รบทันทีได้ถูกกำหนดไว้แล้วในสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ที่กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเมื่อเดือนมิถุนายน พร้อมชี้ว่ายูเครนเป็นฝ่ายปฏิเสธการเจรจา โดยประธานาธิบดีเซเลนสกีถึงขั้นออกคำสั่งห้ามตัวเองและรัฐบาลติดต่อกับผู้นำรัสเซีย

"หากต้องการกลับสู่เส้นทางสันติภาพ เพียงแค่เซเลนสกียกเลิกคำสั่งและสั่งให้กลับมาเจรจาตามข้อตกลงที่ทำไว้ที่อิสตันบูล โดยคำนึงถึงสถานการณ์จริงในพื้นที่" เปสคอฟกล่าว

     นอกจากนี้ โฆษกทำเนียบเครมลินยังโต้แย้งตัวเลขความสูญเสียที่ยูเครนนำเสนอว่าไม่ตรงกับความเป็นจริง โดยระบุว่า "ความสูญเสียของยูเครนสูงกว่าของรัสเซียหลายเท่า" พร้อมทำนายว่าหากสถานการณ์ยังคงดำเนินต่อไปในอัตราเดียวกัน กองทัพยูเครนจะถึงจุดอ่อนล้าอย่างสมบูรณ์ จนต้องลดอายุเกณฑ์ทหารเหลือ 18 ปี และใช้มาตรการเข้มงวดในการเกณฑ์ทหารโดยไม่สมัครใจ

"แม้จะทำเช่นนั้น ก็ไม่สามารถพลิกสถานการณ์อันเลวร้ายในกองทัพยูเครนได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับยูเครนเองและผู้สังเกตการณ์ระหว่างประเทศ" เปสคอฟกล่าว

     แถลงการณ์ครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางสัญญาณบวกจากการที่โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้พบหารือกับผู้นำฝรั่งเศสและยูเครนที่กรุงปารีส ซึ่งอาจนำไปสู่ความเป็นไปได้ในการเจรจาสันติภาพ แต่รัสเซียยังคงยืนยันจุดยืนว่า การเจรจาต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อตกลงที่เคยทำไว้ที่อิสตันบูล และต้องคำนึงถึงสถานการณ์ในสนามรบปัจจุบัน ขณะที่ยูเครนยังคงปฏิเสธที่จะเปลี่ยนแปลงจุดยืนของตน

     การแถลงของเปสคอฟยังสะท้อนให้เห็นว่า รัสเซียพยายามดึงประเทศพันธมิตร BRICS และประเทศในตะวันออกกลางให้มีบทบาทในการเจรจาสันติภาพมากขึ้น แทนที่จะพึ่งพาการเจรจาผ่านชาติตะวันตกเพียงอย่างเดียว ซึ่งอาจเป็นกลยุทธ์ในการสร้างแรงกดดันทางการทูตรูปแบบใหม่ในความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมากว่า 2 ปีนี้

---

IMCT NEWS

ที่มา https://t.co/CnsKU2P0QX