.

Thailand
‘พิชัย’ มองบทสรุปเจรจาภาษีสหรัฐว่าอัตราภาษีไทยไม่เกิน 20%
19-7-2025
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการเจรจาภาษีตอบโต้ของสหรัฐ (Reciprocal Tariffs) ว่า การหารือร่วมกับสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) เมื่อคืนวานนี้ บรรยากาศเป็นไปด้วยดี โดยมีการใช้เวลาพูดคุย 30 นาทีเต็มตามที่ตกลงไว้ ซึ่งประเด็นที่หารือกันเป็นไปในทิศทางที่ชัดเจน โดยมีการนำเสนอที่ลงรายละเอียดเรื่องภาษีศุลกากร สินค้าผ่านทาง การสั่งซื้อสินค้าจากสหรัฐ และการเข้าไปลงทุนเพิ่มขึ้น รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของไทยด้วย ซึ่งท่าทีของสหรัฐระบุว่าข้อเสนอของไทยมีการปรับปรุงที่ดีขึ้น “Very Substantial Improvement”
นายพิชัย กล่าวว่า ยังคงยืนยันว่าข้อเสนอของไทยอยู่บนหลักการที่ดี อย่างไรก็ดี การเปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐแปลว่าไทยต้องพร้อมขับเคลื่อนไปในแนวรุกเช่นกัน หากไทยสั่งสินค้าเข้ามาเพื่อสร้างสมดุลการค้ากับสหรัฐ ขณะเดียวกันเศรษฐกิจของเราจะต้องขยายตัวขึ้นด้วย เมื่อซื้อเพิ่มก็ต้องขายเพิ่มไปยังตลาดอื่นๆ ทั่วโลกให้ได้ด้วย
ขณะเดียวกัน การที่ไทยลดกำแพงให้สินค้านำเข้าจากสหรัฐบางรายการแม้จะมีมูลค่าไม่มากนัก แต่อาจส่งผลกระทบต่อเกษตรกรรม และอุตสาหกรรมในประเทศ รวมถึงซัพพลายเชนที่เป็น SME ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่าพร้อมจะดูแล และช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านจากนี้ไปอย่างเร่งด่วน
“จุดที่สำคัญที่สุดคือ การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยให้ได้ เมื่อสินค้าไทยมีประสิทธิภาพ ต้นทุน คุณภาพสินค้า ทีนี้จะไปสู้กับใครทั่วโลก ก็สามารถทำได้แล้ว”
นายพิชัย กล่าวว่า ยืนยันว่าข้อเสนอของไทยตรงเป้าของสหรัฐได้ดีที่สุด และไม่ได้เป็นเป้าที่ไทยจะต้องฝืนใจตัวเอง ต้องยอมรับว่าเราจะเปิดตลาดให้สหรัฐกว้างขึ้น และไทยมีแผนที่จะทำเพิ่มด้วย จึงยังมองว่าเป็น Win-Win ของประเทศ
นายพิชัย กล่าวต่อว่า คาดว่าสุดท้ายแล้วอัตราภาษีศุลกากรตอบโต้ที่ไทยจะได้รับน่าจะใกล้เคียงกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกันคือ ในอัตราประมาณ 20%
ทั้งนี้ เข้าใจว่าจากการเจรจาดังกล่าว ผู้บริหารระดับสูงของสหรัฐจะทราบเรื่องวันนี้ และคาดว่าก่อนสหรัฐจะเริ่มเก็บภาษีไทย วันที่ 1 ส.ค.68 นี้ เราจะได้รับคำตอบการประกาศอัตราภาษีใหม่ จากเดิมที่กำหนด 36%
สำหรับกรณีอัตราภาษีของสินค้าสวมสิทธิผ่านทาง นายพิชัย กล่าวว่า เงื่อนไขของสินค้าผ่านแดน (Transshipments) จะมีการหารืออีกครั้งว่าจะกำหนดอย่างไร สหรัฐก็คงจะมีการพิจารณาสินค้าในแต่ละเซกเตอร์ แบ่งเป็นหลายอัตราซึ่งยังต้องมีการจับตากันต่อไป
ที่มา Bangkokbiznews.com
© Copyright 2020, All Rights Reserved