.

'ทองคำ' ทรัพย์สินปลอดยภัย แทนที่ดอลลาร์และพันธบัตรสหรัฐฯ ท่ามกลางหนี้สาธารณะพุ่งสูง-ความขัดแย้งตะวันออกกลาง
16-6-2025
Market Watch รายงานว่า ราคาทองทำสถิติใหม่ 24 ครั้งในปีนี้ เหตุนักลงทุนไม่เชื่อมั่นพันธบัตรสหรัฐฯ ท่ามกลางหนี้สาธารณะพุ่งสูง
ราคาทองคำปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในวันศุกร์ที่ 3,452.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งนับเป็นการทำสถิติสูงสุดครั้งที่ 24 ในปีนี้ ภายหลังจากที่อิหร่านยิงขีปนาวุธตอบโต้อิสราเอลภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังจากที่อิสราเอลโจมตีสถานที่นิวเคลียร์ของเตหะรานอย่างกว้างขวาง
"ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยชนิดใหม่ในมุมมองของนักลงทุน" จอร์จ คาทรัมโบน หัวหน้าฝ่ายตราสารหนี้ภูมิภาคอเมริกาของบริษัท DWS กล่าวในการให้สัมภาษณ์ พร้อมเสริมว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีและ 30 ปีไม่ได้รับความนิยมในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงอย่างชัดเจน
คาทรัมโบนระบุว่า นี่คือบทเรียนที่นักลงทุนได้เรียนรู้หลังจากความผันผวนอย่างรุนแรงในตลาดเมื่อประมาณสองเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์สร้างความตกตะลึงให้กับตลาดเมื่อวันที่ 2 เมษายน ด้วยการประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากร "วันปลดปล่อย" อย่างกว้างขวาง ซึ่งมีอัตราสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก
"จนกว่าจะมีการพิสูจน์เป็นอย่างอื่น ทองคำคือสินทรัพย์ทางเลือกปลอดภัยชนิดใหม่" เขากล่าว
ทองคำ ดอลลาร์สหรัฐฯ และพันธบัตรรัฐบาล เป็นสินทรัพย์หลักที่นักลงทุนมักเลือกเพื่อความปลอดภัยในช่วงเวลาที่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความผันผวนในตลาดเพิ่มสูงขึ้น แต่ในปีนี้ ทิศทางดังกล่าวได้เปลี่ยนแปลงไป
แม้กระทั่งก่อนที่ทรัมป์จะชนะการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน การแสดงจุดยืนที่แข็งกร้าวเกี่ยวกับนโยบายภาษีศุลกากรระหว่างการรณรงค์หาเสียงของเขา ส่งผลให้นักลงทุนทั่วโลกหันไปซื้อทองคำเพื่อกระจายเงินทุนสำรองออกจากดอลลาร์สหรัฐฯ
นับตั้งแต่เกิดความวุ่นวายเรื่องภาษีศุลกากรในเดือนเมษายน ความกังวลเกี่ยวกับกระแสการเทขายสินทรัพย์อเมริกันที่ยืดเยื้อได้ปกคลุมตลาดการเงินโลก โดยดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ของ ICE เพิ่มขึ้น 0.3% ในวันศุกร์ แต่ยังคงลดลง 9.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ คือการที่นักลงทุนให้ความสนใจกับภาระหนี้สาธารณะจำนวนมหาศาลของรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงการคาดการณ์การขาดดุลงบประมาณล่าสุดภายใต้ร่างกฎหมายด้านภาษีและการใช้จ่ายของพรรครีพับลิกัน ซึ่งขณะนี้อยู่ในการพิจารณาของวุฒิสภา
ตามข้อมูลของทีมวิจัย BofA Global Research ที่นำโดยไมเคิล ฮาร์ทเน็ตต์ นักยุทธศาสตร์ด้านการลงทุน การจ่ายดอกเบี้ยของหนี้สาธารณะสหรัฐฯ ซึ่งมีมูลค่ารวม 36 ล้านล้านดอลลาร์ มีค่าใช้จ่ายมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี
นอกจากนี้ ทีมวิจัยของ BofA ยังระบุในบันทึกถึงลูกค้าเมื่อวันศุกร์ว่า การจ่ายดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 5 ปีจะลดลงต่ำกว่า 3.3% จากระดับปัจจุบันที่ 4% ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลทรัมป์จึงต้องการให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นเป็น 4.423% ในวันศุกร์ หรือสูงกว่าระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี 80 จุดพื้นฐาน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปี หรือที่เรียกว่า "พันธบัตรระยะยาว" เพิ่มขึ้นเป็น 4.913% สูงกว่าระดับต่ำสุดในรอบ 12 เดือนประมาณ 98 จุดพื้นฐาน ตามข้อมูลของ Dow Jones Market Data
ทีมวิจัย BofA Global ระบุว่า ภาระหนี้สินและการขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ผลักดันให้เกิดการเก็งกำไรจากการลดลงของราคาพันธบัตรระยะยาว ซึ่งเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่ได้รับความนิยมในวอลล์สตรีท
อย่างไรก็ตาม การเทขายในตลาดพันธบัตรรัฐบาลเกิดขึ้นท่ามกลางสภาวะที่นักลงทุนยังไม่ต้องเผชิญกับช่วงเวลาการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ยาวนาน
ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดวันศุกร์ด้วยการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง แต่ยังคงสูงกว่าจุดต่ำสุดที่ปิดตลาดเมื่อวันที่ 8 เมษายนเกือบ 20% และต่ำกว่าระดับสูงสุดที่ปิดตลาดเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ 6,144.15 เพียง 2.7% ตามข้อมูลของ Dow Jones Market Data
"ผมไม่อยากให้ละทิ้งสิ่งที่มีคุณค่าไปพร้อมกับสิ่งที่ไม่ดี" คาทรัมโบนกล่าว "มีจุดหนึ่งที่ทองคำมีมูลค่าสูงเกินจริง นั่นคือเหตุผลที่การลงทุนในทองคำไม่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว"
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.marketwatch.com/story/gold-is-the-new-risk-free-asset-instead-of-the-dollar-and-treasurys-as-israel-iran-conflict-rattles-investors-98c8e46e?mod=dist_amp_social&link=sfmw_tw