.

Thailand
สหรัฐฯ เริ่มอพยพบุคลากรที่ไม่จำเป็นและครอบครัวจากตะวันออกกลาง
13-6-2025
สหรัฐอเมริกาได้เริ่มอพยพบุคลากรที่ไม่จำเป็นและครอบครัวของพวกเขาออกจากสถานทูตและฐานทัพในภูมิภาคตะวันออกกลาง ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นกับอิหร่าน
การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาว่าเตหะราน "ถ่วงเวลา" การเจรจา “จากการวิเคราะห์ล่าสุดของเรา เราจึงตัดสินใจลดขนาดภารกิจของเราในอิรัก” กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์ที่ส่งทางอีเมลถึงสื่อเมื่อวันพุธ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ว่า มีการอนุญาตให้เดินทางออกโดยสมัครใจจากสถานทูตในคูเวตและบาห์เรนเช่นกัน
เพนตากอนก็ได้อนุมัติให้ครอบครัวของทหารประจำการในภูมิภาคนี้เดินทางออกได้เช่นกัน “CENTCOM กำลังประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงการต่างประเทศของเรา รวมถึงพันธมิตรในภูมิภาค เพื่อคงไว้ซึ่งความพร้อมปฏิบัติการในภารกิจทั่วโลกตลอดเวลา” เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมรายหนึ่งกล่าวกับผู้สื่อข่าว
ตามรายงานของ Washington Post เจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐฯ กังวลว่าอิสราเอลอาจโจมตีโครงสร้างพื้นฐานนิวเคลียร์ของอิหร่านโดยไม่ปรึกษาสหรัฐฯ ก่อน ด้านสำนักงานของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ได้ปฏิเสธรายงานเมื่อเดือนที่แล้วว่า อิสราเอลได้หารือกับทรัมป์เกี่ยวกับแผนการโจมตีว่าเป็น “ข่าวปลอม”
ในการให้สัมภาษณ์กับ New York Post เมื่อวันพุธ ทรัมป์กล่าวว่าเขา “มีความมั่นใจน้อยลง” ว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับอิหร่านได้ หลังจากการเจรจา 5 รอบที่มีโอมานเป็นผู้ไกล่เกลี่ยไม่สามารถบรรลุผลได้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เคยกล่าวว่าเขาต้องการรื้อถอนโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านโดยสิ้นเชิง ซึ่งเตหะรานได้ปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
“อิหร่านไม่ได้แสวงหาอาวุธนิวเคลียร์ และความเป็นทหารของสหรัฐฯ ยิ่งสร้างความไม่มั่นคงมากขึ้น” ภารกิจของอิหร่านประจำสหประชาชาติระบุในแถลงการณ์ผ่าน X (เดิมคือ Twitter)
รัฐมนตรีกลาโหมของอิหร่าน นายอาซิซ นาซีร์ซาเดห์ เตือนว่า “อิหร่านจะโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ทั่วทั้งภูมิภาคโดยไม่ลังเล” หากถูกรุกราน ทั้งนี้ ทรัมป์เคยถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การสหประชาชาติในช่วงวาระแรกของเขา โดยกล่าวหาอิหร่านว่าละเมิดข้อตกลงอย่างลับๆ ซึ่งเตหะรานได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ แต่หลังจากนั้นก็ได้ลดข้อผูกพันบางส่วนลง และเพิ่มปริมาณยูเรเนียมเสริมสมรรถนะในครอบครอง
ที่มา RT
© Copyright 2020, All Rights Reserved