.

จีน-บราซิล แนบแน่น ต้านภาษีศุลกากรทรัมป์ รุกความร่วมมือ BRICS ปูทางระเบียบโลกหลายขั้ว หนุนเจรจาสันติภาพ
14-5-2025
สี จิ้นผิง-ลูลา ผนึกกำลัง เรียกร้องระเบียบโลกใหม่ที่ยุติธรรม ท่ามกลางสงครามภาษีของทรัมป์ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนพบกับประธานาธิบดีหลุยส์ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิลที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันอังคาร โดยทั้งสองประเทศเห็นพ้องที่จะเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนเพื่อปกป้องระเบียบโลกหลายขั้ว โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เผชิญกับสงครามภาษีศุลกากรทั่วโลกของรัฐบาลทรัมป์
ทั้งสองประเทศยืนยันสถานะกันและกันในฐานะผู้นำเสียงของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา (Global South) และเรียกร้องให้ประเทศกำลังพัฒนารวมตัวกันเพื่อร่วมกันกำหนดระเบียบระหว่างประเทศที่ "มีความยุติธรรมมากขึ้น"
จีนและบราซิลยังได้ออกแถลงการณ์ร่วมหลังการประชุม เรียกร้องให้รัสเซียและยูเครน "เริ่มเจรจาโดยตรงโดยเร็วที่สุด" ซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนการเจรจาสันติภาพที่อาจมีขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครนในตุรกี ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้แสดงความพร้อมที่จะเข้าร่วมการเจรจาซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นที่อิสตันบูลในวันพฤหัสบดี
ในการแถลงข่าวร่วมหลังการประชุม สีจิ้นผิงกล่าวว่าการเจรจากับลูลาเป็นไปอย่าง "เป็นกันเอง เป็นมิตร และเกิดผลอย่างงดงาม" พร้อมระบุว่ามิตรภาพระหว่างจีนและบราซิลวางอยู่บนรากฐานที่ "แข็งแกร่ง" มีผลประโยชน์ร่วมกันอย่างกว้างขวาง และมีศักยภาพมหาศาลสำหรับความร่วมมือในโลกที่ "ปั่นป่วน"
"โลกทุกวันนี้ไม่ได้สงบสุข และความท้าทายเพิ่มขึ้นทุกวัน" สีจิ้นผิงกล่าว "จีนและบราซิลจะร่วมกันยึดมั่นในหลักการการค้าเสรีและระบบการค้าพหุภาคี... เพื่อรักษาแรงขับเคลื่อนและพลวัตการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลก"
ลูลาแสดงความเห็นสอดคล้องกับสีจิ้นผิง โดยระบุว่าทั้งสองประเทศมุ่งมั่นที่จะออกเสียงเป็นหนึ่งเดียวต่อต้านลัทธิฝ่ายเดียวและการปกป้องทางการค้า ซึ่งเป็นการวิพากษ์วิจารณ์แบบแอบแฝงต่อนโยบายการค้าของทำเนียบขาวภายใต้การนำของทรัมป์
สีจิ้นผิงและลูลาได้เป็นสักขีพยานในการลงนามเอกสารความร่วมมือประมาณ 20 ฉบับ ครอบคลุมหลากหลายด้าน ทั้งข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของปักกิ่ง เทคโนโลยี การเกษตร ปัญญาประดิษฐ์ การแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ทรัพยากรแร่ และการค้า
ทั้งสองประเทศยังลงนามในแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการปกป้องระบบพหุภาคี โดยระบุว่า "ทั้งสองฝ่ายเชื่อว่าไม่มีผู้ชนะในสงครามภาษีหรือสงครามการค้า และการคุ้มครองทางการค้าไม่ควรเป็นคำตอบสำหรับความท้าทายในปัจจุบัน" และ "ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันทำงาน... เพื่อส่งเสริมการพัฒนาระเบียบและระบบระหว่างประเทศให้มีทิศทางที่ยุติธรรมและเท่าเทียมมากขึ้น และส่งเสริมการสร้างโลกหลายขั้ว"
แม้ว่าสหรัฐฯ และจีนจะได้ระงับสงครามภาษีศุลกากรที่รุนแรงไปชั่วคราวแล้ว แต่ความไม่แน่นอนที่ยังคงอยู่คาดว่าจะช่วยเสริมความสัมพันธ์ระหว่างจีนและบราซิล ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจกำลังพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดในซีกโลกตะวันออกและตะวันตกตามลำดับ
การเยือนครั้งนี้ของลูลาซึ่งใช้เวลา 5 วันและจะสิ้นสุดในวันพุธ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามดังกล่าว เขาได้จัดประชุมกับผู้นำธุรกิจระดับสูงของจีนหลายรายเมื่อวันจันทร์ และเข้าร่วมงานฟอรัมธุรกิจจีน-บราซิล ซึ่งเขาได้ประกาศว่าปักกิ่งจะลงทุนประมาณ 4.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในบราซิล
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จีนประกาศยกเลิกข้อจำกัดการนำเข้าถั่วเหลืองจากบริษัทบราซิล 5 แห่ง ที่ถูกระงับมาหลายเดือนด้วยเหตุผลด้านสุขอนามัยพืช ขณะที่จีนได้หยุดนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ และสั่งซื้อถั่วเหลืองจากบราซิลประมาณ 1.8 ล้านตันสำหรับเดือนเมษายนและพฤษภาคม ตามข้อมูลทางการ
คาดการณ์ว่าผู้ซื้อจีนจะหันไปพึ่งพาสินค้าเกษตรจากบราซิลมากขึ้นเพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าจากสหรัฐฯ ท่ามกลางความตึงเครียดด้านภาษีศุลกากร ในขณะเดียวกัน บราซิลส่งสัญญาณแผนการเพิ่มการส่งออกไปยังจีนและดึงดูดการลงทุนจีนเพิ่มขึ้นสำหรับการขับเคลื่อน "การฟื้นฟูอุตสาหกรรม" โดยยืนยันว่าความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นกับปักกิ่งไม่ได้หมายความว่าบราซิลกำลังห่างเหินจากสหรัฐฯ
การเยือนของลูลาเกิดขึ้นในช่วงที่ละตินอเมริกากำลังกลายเป็นแนวหน้าในการแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นเกี่ยวกับคลองปานามา ในวันอังคาร ลูลาได้ร่วมกับสีจิ้นผิงในการประชุมระดับรัฐมนตรีซึ่งมีความสำคัญสูงระหว่างจีนกับประชาคมรัฐละตินอเมริกาและแคริบเบียน ซึ่งถือเป็นโอกาสให้ปักกิ่งได้แลกเปลี่ยนมุมมองกับประเทศกำลังพัฒนาสำคัญเกี่ยวกับการรับมือกับภาษีศุลกากรทั่วโลกของทรัมป์
จีนและสหรัฐฯ ตกลงกันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่จะระงับภาษีศุลกากรส่วนใหญ่ระหว่างกันเป็นเวลา 90 วัน แต่ปักกิ่งได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าจะคัดค้านและตอบโต้อย่างเด็ดขาดต่อข้อตกลงการค้าใดๆ กับสหรัฐฯ ที่อาจกระทบต่อผลประโยชน์ของจีน
ทั้งสีจิ้นผิงและลูลาต่างอยู่ที่กรุงมอสโกเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อร่วมขบวนพาเหรดวันแห่งชัยชนะซึ่งจัดขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 80 ปีการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง เพิ่มความคาดการณ์ว่าจีนและบราซิลกำลังเพิ่มความพยายามร่วมกันเพื่อสร้างอิทธิพลที่มากขึ้นในระบบการปกครองโลก
เมื่อปีที่แล้ว ทั้งสองประเทศได้เสนอแผนสันติภาพของตนเองเพื่อยุติสงครามในยูเครน สีจิ้นผิงมีกำหนดจะเดินทางไปเยือนบราซิลในเดือนกรกฎาคมเพื่อร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่ม BRICS ซึ่งเป็นกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่มีสมาชิก 10 ประเทศ โดยมีจีน บราซิล และรัสเซียเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้ง
สีจิ้นผิงเดินทางไปบราซิลครั้งล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายน เมื่อทั้งสองประเทศตัดสินใจยกระดับความสัมพันธ์ให้เป็น "ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันเพื่อโลกที่ยุติธรรมยิ่งขึ้นและโลกที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น"
ลูลากล่าวกับสีจิ้นผิงในวันอังคารว่า เขาตั้งตารอที่จะตอบแทนการต้อนรับอันอบอุ่นที่ได้รับจากผู้นำจีน เมื่อทั้งสองพบกันอีกครั้งในการประชุม BRICS "BRICS จะยิ่งทวีความสำคัญในฐานะพื้นที่พื้นฐานสำหรับการประสานงานในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเพื่อสร้างโลกที่มีระเบียบหลายขั้วที่ยุติธรรมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น" เขากล่าว
----
IMCT NEWS