'ทรัมป์' ลั่น! 'เซเลนสกี' ไม่ควรปล่อยให้เกิดความขัดแย้งกับรัสเซีย

ขอบคุณภาพจาก Britannica

25-1-2025

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่าประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ไม่ควรปล่อยให้เกิดความขัดแย้งกับรัสเซีย แต่กลับต้องการที่จะต่อสู้

       "และเซเลนสกี ผมจะพูดแบบนี้ เขาต้องการยุติความขัดแย้งตอนนี้ เขาทนไม่ไหวแล้ว เขาไม่ควรปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นเช่นกัน คุณรู้ไหม เขาไม่ใช่เทวดา เขาไม่ควรปล่อยให้สงครามนี้เกิดขึ้น ก่อนอื่นเลย เขากำลังต่อสู้กับกลุ่มที่ใหญ่กว่ามาก.. เมื่อเขาพูด คุณรู้ไหม ว่ากล้าหาญมาก.. พวกเขากล้าหาญ แต่เราให้เงินพวกเขาเป็นพันล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ ใช้เงินมากกว่ายุโรปถึง 200,000 ล้านดอลลาร์" ทรัมป์ระบุระหว่างให้สัมภาษณ์กับ Fox News

     นอกจากนี้ ทรัมป์ก็ยังระบุว่าสามารถบรรลุข้อตกลงได้ โดย “เซเลนสกีกำลังต่อสู้กับหน่วยงานที่ใหญ่กว่ามาก ใหญ่กว่ามาก และทรงพลังกว่ามาก เขาไม่ควรทำเช่นนั้น เพราะเราสามารถทำข้อตกลงได้ และข้อตกลงนั้นก็จะเป็นแค่ข้อตกลงที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมสามารถทำข้อตกลงนั้นได้อย่างง่ายดาย และเซเลนสกีก็ตัดสินใจว่า 'ผมอยากต่อสู้'”

     เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (23 ม.ค.) ทรัมป์ประกาศความปรารถนาที่จะพบกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย “ในทันที” โดยอ้างว่าเขาได้รับ “สัญญาณ” ว่าผู้นำรัสเซียเปิดใจต่อแนวคิดดังกล่าว พร้อมระบุด้วยว่าเซเลนสกีก็แสดง “ความเต็มใจที่จะทำข้อตกลง” เพื่อแก้ไขความขัดแย้งในยูเครน

ก่อนหน้านี้ 1 วัน (22 ม.ค.) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกร้องให้มอสโกยุติปฏิบัติการพิเศษ โดยเตือนว่าหากไม่ทำเช่นนั้น จะส่งผลให้มีการคว่ำบาตรและเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการทำให้ความขัดแย้งยืดเยื้อ

ด้านดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำพูดของทรัมป์ โดยระบุว่า รัสเซียเปิดใจต่อการเจรจาอย่างเท่าเทียมกับสหรัฐฯ และกำลังรอสัญญาณจากวอชิงตัน แม้ว่าจะยังไม่ได้รับสัญญาณใดๆ เลยก็ตาม พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ในช่วงวาระแรก ทรัมป์สนับสนุนการคว่ำบาตร แต่เน้นย้ำว่าการกระทำที่ไม่เป็นมิตรกับมอสโกจะมีผลตามมา

สำหรับจุดยืนของรัสเซียในการแก้ไขข้อขัดแย้งในยูเครนโดยสันติที่ปูตินได้เสนอเมื่อเดือนมิถุนายนของปีที่แล้ว (2024) ที่มอสโกจะยุติการสู้รบทันทีและประกาศความพร้อมสำหรับการเจรจา หากยูเครนประกาศอย่างเป็นทางการว่าตั้งใจที่จะยุติการเข้าร่วม NATO, กองทัพยูเครนถอนตัวออกจากภูมิภาคที่รัสเซียระบุว่าได้ผนวกรวมเข้าเป็นหนึ่ง, ยูเครนดำเนินการปลดอาวุธและกำจัดนาซี รวมถึงยอมรับสถานะเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งปูตินในฐานะประธานาธิบดีรัสเซียยังเชื่อมโยงเรื่องนี้กับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียอีกด้วย

IMCT News

ที่มา https://sputnikglobe.com/20250124/trump-says-zelensky-shouldnt-have-allowed-conflict-to-happen-but-wanted-to-fight-1121486798.html