Thailand
ฐานทัพสหรัฐฯ ในฮอนดูรัสอาจปิดตัวลงหลัง 'ทรัมป์' เข้ารับตำแหน่ง
ขอบคุณภาพจาก Sputnik International
6-1-2025
โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะกลับเข้าสู่ทำเนียบขาวอีกสมัย ส่งสัญญาณว่าพร้อมที่จะส่งพลเมืองละตินอเมริกาหลายล้านคนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมายกลับประเทศ ขณะที่ประธานาธิบดีซิโอมารา คาสโตร ประธานาธิบดีฮอนดูรัสเตือนว่า หากวอชิงตันเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายจำนวนมากออกจากสหรัฐฯ กองกำลังสหรัฐฯ จะถูกขับไล่ออกจากฮอนดูรัสเช่นกัน
“หากเผชิญกับทัศนคติที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการขับไล่พี่น้องของเราออกไปเป็นจำนวนมาก เราจะต้องพิจารณาเปลี่ยนนโยบายความร่วมมือกับสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการทหาร ซึ่งเป็นเวลานานหลายทศวรรษที่พวกเขายังคงตั้งฐานทัพทหารบนดินแดนของเราโดยไม่จ่ายเงินแม้แต่เซ็นต์เดียว ซึ่งในกรณีนี้ ฐานทัพดังกล่าวจะสูญเสียเหตุผลทั้งหมดในการดำรงอยู่ในฮอนดูรัส” คาสโตรกล่าว ซึ่งเป็นที่คาดการณ์ว่า คาสโตรน่าจะกล่าวถึงฐานทัพอากาศโซโตคาโน
แถลงการณ์ดังกล่าวตามมาด้วยการระบุของเอนริเก เรน่า รัฐมนตรีต่างประเทศฮอนดูรัส ซึ่งระบุว่าประธานาธิบดีของประเทศมีอำนาจที่จะระงับข้อตกลงกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับฐานทัพอากาศแห่งนี้ซึ่งมีอายุเก่าแก่หลายสิบปี โดยไม่ต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา
ด้านไบรอัน ฮิวจ์ส โฆษกของทีมงานเปลี่ยนผ่านของทรัมป์ ตอบกลับโดยกล่าวว่ารัฐบาลทรัมป์ "หวังเป็นอย่างยิ่ง" ที่จะร่วมมือกับพันธมิตรในละตินอเมริกา เพื่อให้แน่ใจว่าพรมแดนทางตอนใต้ของสหรัฐฯ จะปลอดภัย และ "ผู้อพยพผิดกฎหมายสามารถส่งตัวกลับประเทศต้นทางได้"
ขณะเดียวกัน ทรัมป์เคยสัญญาว่าเขาจะเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายออกจากสหรัฐฯ อย่างรวดเร็วเมื่อเขาเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม (2025) แต่อย่างไรก็ตาม ทีมงานเปลี่ยนผ่านของเขาปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับแผนที่ชัดเจน ซึ่งก่อนหน้านี้ ว่าที่ประธานาธิบดีคนล่าสุดของสหรัฐฯ ได้เนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายประมาณ 1.5 ล้านคนในช่วงดำรงตำแหน่งวาระแรกของเขา
สำหรับฐานทัพอากาศโซโตคาโน ซึ่งเดิมทีสร้างโดยสหรัฐฯ ในช่วงทศวรรษ 1980 ช่วยควบคุมสิ่งที่วอชิงตันกล่าวในขณะนั้นว่าเป็นภัยคุกคามของคอมมิวนิสต์ในภูมิภาค ปัจจุบันฐานทัพแห่งนี้มีทหารและพลเรือนของสหรัฐฯ อาศัยอยู่ไม่ต่ำกว่า 1,000 นาย
IMCT News
© Copyright 2020, All Rights Reserved