Thailand
ปรากฏการณ์ทองคำยุโรปตะวันออก! ธนาคารกลางเร่งสะสมหนีพึ่งดอลลาร์ หวั่นวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน
13-12-2024
ธนาคารกลางยุโรปตะวันออกแซงจีนซื้อทองคำ หวั่นวิกฤตยูเครน-รัสเซีย -หนีพึ่งดอลลาร์
กรุงลอนดอน -- ธนาคารกลางในยุโรปตะวันออกกำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่แทนที่จีน สะท้อนความพยายามสร้างความเป็นอิสระทางเศรษฐกิจและลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน
ราคาทองคำที่เคยทะยานแตะระดับสูงสุดที่ 2,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ปรับตัวลดลงหลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง เนื่องจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาได้ฟื้นตัวมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่าช่วงก่อนเลือกตั้งเพียง 5% ในต้นเดือนธันวาคม 2567
นักวิเคราะห์มองว่าแม้ภาวะกระทิงในตลาดทองคำที่ดำเนินมา 3 ปีอาจใกล้สิ้นสุด แต่นโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" ของทรัมป์ และการเร่งซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกจะยังคงเป็นปัจจัยหนุนราคา โดยโกลด์แมนแซคส์คาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจพุ่งแตะ 3,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์
บลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารกลางในสาธารณรัฐเช็ก โปแลนด์ ฮังการี และเซอร์เบีย กำลังนำการซื้อทองคำ เพื่อสร้างความมั่นคงในภูมิภาคที่เคยถูกกระทบจากสงครามในอดีตและปัจจุบันกำลังเผชิญกับความขัดแย้งที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
นายอเลส มิชล์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสาธารณรัฐเช็ก เปิดเผยแผนเพิ่มทองคำสำรองเป็นสองเท่าภายใน 3 ปี หลังจากเพิ่มไปแล้ว 400% ในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยระบุว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีความสัมพันธ์กับตลาดหุ้น ช่วยลดความผันผวนได้
ด้านนายอดัม กลาพินสกี ผู้ว่าการธนาคารกลางโปแลนด์ ประกาศเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนทองคำเป็น 20% ของเงินสำรองทั้งหมด พร้อมย้ำว่า "ทองคำเป็นสัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่งของประเทศ" และช่วยสร้างความเชื่อมั่นแม้ในสถานการณ์ที่ท้าทายที่สุด
ฮังการีครองตำแหน่งประเทศที่ถือครองทองคำต่อประชากรสูงสุดในยุโรปกลางและตะวันออกในปี 2567 ขณะที่เซอร์เบียภายใต้การนำของประธานาธิบดีอเล็กซานดาร์ วูซิช เพิ่มปริมาณสำรองทองคำเป็นสามเท่าเป็น 48 ตันตั้งแต่ปี 2555
ผลสำรวจการสำรองทองคำของธนาคารกลางปี 2567 ชี้ว่า ธนาคารกลางส่วนใหญ่เชื่อว่าสัดส่วนเงินดอลลาร์จะลดลงต่อเนื่องจาก 72% ในปี 2545 เหลือ 58% ในปัจจุบัน ขณะที่ทองคำจะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้า
แนวโน้มดังกล่าวสอดคล้องกับความพยายามของจีนและกลุ่มประเทศ BRICS ในการลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ ส่งผลให้นักลงทุนรายย่อย โดยเฉพาะผู้ถือกองทุน IRA ทองคำในสหรัฐฯ เริ่มมองโลกในแง่ดีต่ออนาคตของทองคำ แม้จะยังไม่สามารถคาดการณ์ผลกระทบจากนโยบายของทรัมป์ในสมัยที่สองได้อย่างชัดเจน
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.jpost.com/business-and-innovation/precious-metals/article-833086
© Copyright 2020, All Rights Reserved