รัฐบาลซีเรียยืนยันทำงานต่อ ท่ามกลางความวุ่นวายหลังระบอบอัซซาดล่ม

10-12-2024

    นายกรัฐมนตรีซีเรียยืนยันในวันจันทร์ว่า คณะรัฐมนตรีจะเดินหน้าทำงานต่อไปแม้ว่าเพิ่งเกิดเหตุการณ์กลุ่มแข็งข้อต่อต้านบุกยึดเมืองหลวงและโค่นล้มรัฐบาลของประธานาธิบดีบะชาร์ อัล-อัซซาด ในช่วงสุดสัปดาห์ ท่ามกลางความวุ่นวายครั้งใหญ่ในประเทศ

     สัญญาณแห่งปัญหาและความท้าทายในซีเรียปรากฎขึ้นทันทีภายใต้การควบคุมของพันธมิตรกลุ่มติดอาวุธที่นำโดย อาบู โมฮัมเหม็ด อัล-กอลานี อดีตสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายอัล-ไคดา เมื่อประชาชนจำนวนมากตัดสินใจลี้ภัยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ท่ามกลางวิกฤตสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มที่อิหร่านให้การสนับสนุน

   ในวันจันทร์ อิสราเอลระบุว่าได้โจมตีทางอากาศใส่เป้าหมายที่เชื่อว่าเป็นสถานที่เก็บอาวุธเคมีและขีปนาวุธพิสัยไกล เพื่อไม่ให้ตกอยู่ในการครอบครองของกลุ่มติดอาวุธแนวคิดสุดโต่ง นอกจากนี้กองทัพอิสราเอลยังเข้าประจำการในเขตกันชนภายในดินแดนของซีเรียหลังจากทหารซีเรียถอนกำลังออกไป

      ด้านทางการตุรกีเปิดเผยว่า กองกำลังพันธมิตรของตุรกีได้เข้ายึดหมู่บ้านแห่งหนึ่งทางเหนือของซีเรียมาจากกองกำลังชาวเคิร์ดที่สหรัฐฯ ให้การสนับสนุน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการแบ่งแยกในพื้นที่ต่าง ๆ ของซีเรีย หลังการล่มสลายของระบอบการปกครองที่นำโดยบะชาร์ อัล-อัซซาด

     ทางด้านรัฐบาลรัสเซียระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้อนุมัติสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมืองให้แก่อัซซาดแล้ว โดยทางโฆษกรัฐบาลรัสเซีย ดมิทรี เพสคอฟ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่าขณะนี้อัซซาดหลบอยู่ที่ไหน และยืนยันว่าปูตินยังไม่มีแผนจะพบกับอัซซาดในตอนนี้

รัฐบาลเดินหน้าทำงานต่อไป

     นายกรัฐมนตรีโมฮัมเหม็ด กาซี จาลาลี ซึ่งยังคงอยู่ในตำแหน่งต่อไปแม้รัฐบาลอัซซาดถูกโค่นอำนาจ กล่าวกับสื่อ Sky News Arabia TV ในวันจันทร์ ว่า "เราจะทำงานต่อไปเพื่อให้การเปลี่ยนผ่านอำนาจเป็นไปอย่างรวดเร็วและราบรื่น" พร้อมระบุว่าสถานการณ์ด้านความมั่นคงขณะนี้เริ่มดีขึ้นแล้ว

นายกฯ ซีเรีย กล่าวด้วยว่า รัฐบาลกำลังร่วมมือกับกลุ่มต่อต้าน และตนพร้อมที่จะพบกับ อัล-กอลานี ผู้นำกลุ่ม ซึ่งปรากฎตัวประกาศชัยชนะที่สุเหร่าแห่งหนึ่งในกรุงดามัสกัสเมื่อวันอาทิตย์

       แถลงการณ์ของกลุ่มแข็งข้อต่อต้านยืนยันว่า จะรับประกันเสรีภาพสำหรับประชาชนทุกคน และจะไม่บังคับให้สตรีต้องสวมเครื่องแต่งกายแบบมุสลิม

บรรยากาศทั่วไปในกรุงดามัสกัสค่อนข้างเงียบเหงาในวันจันทร์ ประชาชนเริ่มใช้ชีวิตตามปกติแม้ร้านค้าต่าง ๆ และระบบขนส่งมวลชนยังคงปิดบริการ ผู้คนจำนวนหนึ่งยังคงชุมนุมฉลองชัยชนะของกลุ่มต่อต้านตามจตุรัสต่าง ๆ ขณะที่บางพื้นที่มีชายถืออาวุธยืนประจำการอยู่บนถนน

     ทางการอิสราเอลแสดงความยินดีต่อการโค่นอำนาจรัฐบาลอัซซาดของซีเรียซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของอิหร่านและกลุ่มเฮซบอลลาห์ในเลบานอน

ก่อนหน้านี้ กองทัพอิสราเอลบุกยึดครองพื้นที่ในเขตกันชนภายในซีเรียหลังจากที่ทหารซีเรียถอนกำลังออกไป

     รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล กิเดียน ซาร์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ว่า "ผลประโยชน์เดียวที่อิสราเอลมีอยู่คือความปลอดภัยของพลเมืองอิสราเอล" "และนั่นคือสาเหตุที่เราโจมตีใส่ระบบยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ เช่น อาวุธเคมีที่ยังคงมีอยู่ หรือขีปนาวุธพิสัยไกลและจรวด เพื่อที่จะไม่ให้ตกอยู่ในการครอบครองของกลุ่มแนวคิดสุดโต่ง"

ผู้สื่อข่าวของเอพีในกรุงดามัสกัส รายงานว่า เกิดการโจมตีที่สนามบินทหารทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงดามัสกัสเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งเคยเป็นเป้าหมายของการโจมตีทางอากาศจากอิสราเอล

     ทั้งนี้ ซีเรียตกลงยุติการสั่งสมอาวุธเคมีตั้งแต่ปี 2013 หลังเกิดเหตุการณ์ที่รัฐบาลซีเรียถูกกล่าวหาว่าใช้อาวุธเคมีโจมตีใส่แถบชานกรุงดามัสกัสจนทำให้มีผู้เสียชีวิตนับร้อยคน อย่างไรก็ตาม เช่อว่ารัฐบาลซีเรียยังคงลักลอบเก็บอาวุธเคมีบางส่วนเอาไว้เพื่อใช้ในการโจมตีศัตรูในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

 ที่มา: เอพี