ปธน.เกาหลีใต้รอดจากการถูกถอด แต่ถูกกดดันให้ลงจากตำแหน่ง
ประธานาธิบดีเกาหลีใต้รอดจากการถูกถอดถอน
8-12-2024
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดียูน ซุกยอล ของเกาหลีใต้ รอดจากญัตติถอดถอนโดยพรรคฝ่ายค้าน หลังจากเขาล้มเหลวในการประกาศกฎอัยการศึกเมื่อต้นสัปดาห์นี้
ญัตติถอดถอนประธานาธิบดี ซึ่งจัดทำโดยนักการเมืองฝ่ายค้าน รวมถึงพรรคเดโมแครตชั้นนำ จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากสองในสามของรัฐสภาที่มีสมาชิก 300 คนของเกาหลีใต้จึงจะมีผลทางกฎหมาย
แต่สมาชิกสภานิติบัญญัติที่เป็นพันธมิตรของประธานาธิบดียูนเดินออกจากห้องประชุมสภาก่อนการลงคะแนนเสียงเมื่อวันเสาร์ ทำให้ไม่สามารถบรรลุองค์ประชุมที่จำเป็นสำหรับการลงคะแนนเสียงถอดถอนได้
ก่อนหน้านี้สมาชิกฝ่ายค้านเคยกล่าวว่าพวกเขาจะทบทวนมาตรการถอดถอนในวันพุธ หากล้มเหลวในครั้งแรก
หากการถอดถอนประสบความสำเร็จ ญัตติดังกล่าวจะทำให้ยูนพ้นจากอำนาจประธานาธิบดีโดยมีผลทันที การเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้จะต้องจัดขึ้นภายใน 60 วัน ในกรณีที่ผู้ดำรงตำแหน่งถูกไล่ออกหรือลาออก
เรื่องการถอดถอนประธานาธิบดีในเกาหลีใต้ไม่ใช่เรื่องแปลก โดยก่อนหน้านี้ประมุขแห่งรัฐสองคนเคยถูกกล่าวโทษตั้งแต่ช่วงเปลี่ยนศตวรรษ ได้แก่ โรห์ มู-ฮยอน ในปี 2004 และปาร์ค กึน-เฮ ในปี 2016
ยุน ซึ่งคว้าอำนาจในการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแบบเฉียดฉิวในปี 2022 มีคะแนนความนิยมเพียง 19% ก่อนที่เขาจะประกสซใช้กฎอัยการศึกโดยไม่คาดคิดเมื่อต้นสัปดาห์นี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การรัฐประหารในปี 1979
เขาอ้างถึงความจำเป็นในการ “ปกป้องระเบียบรัฐธรรมนูญบนพื้นฐานของเสรีภาพ และกำจัดกลุ่มต่อต้านรัฐที่สนับสนุนเกาหลีเหนือที่น่าอับอาย ซึ่งขโมยเสรีภาพและความสุขของประชาชนของเรา”
ด้วยสมาชิกรัฐสภา 190 คนและผู้ประท้วงเดินขบวนบนท้องถนน รัฐสภาของเกาหลีใต้มีมติให้ยกเลิกกฎอัยการศึก ในขณะที่กระแสทางการเมืองลุกลามเข้าสู่ตลาดของประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสี่ของเอเชีย คณะกรรมการบริการทางการเงินของเกาหลีใต้กล่าวว่า พร้อมที่จะส่งกองทุนรวม 50 ล้านล้านวอน (35.22 พันล้านดอลลาร์) เพื่อรักษาเสถียรภาพของหุ้นในประเทศและตลาดตราสารหนี้หากจำเป็น ท่ามกลางความผันผวน
ฮัน ดงฮุน ผู้นำพรรคพลังประชาชน เรียกร้องให้ยุน พักงานจากตำแหน่ง ซึ่งบ่งบอกถึงความกังวลว่าประธานาธิบดีอาจดำเนินการ “รุนแรง” อีกครั้ง เช่น การนำกฎอัยการศึกกลับมาใช้ใหม่ ตามการระบุของยอนฮับ
คิม ซอน-โฮ รักษาการรัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ ซึ่งเข้ามารับตำแหน่งต่อจากผู้นำคนก่อน คิม ยอง-ฮยอน ลาออกเมื่อวันพฤหัสบดี ระบุว่าเขาจะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว
เมื่อวันเสาร์ ยุนปรากฏตัวต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อวันอังคาร โดยให้คำมั่นว่าจะไม่มีการพยายามใช้กฎอัยการศึกเป็นครั้งที่สอง
“ผมขอโทษอย่างจริงใจและขอโทษต่อผู้คนที่ต้องทำให้ประหลาดใจมาก” ยุน กล่าวในการปราศรัยต่อสาธารณะทางโทรทัศน์ ตามรายงานของยอนฮับ “ผมจะไม่หลีกเลี่ยงความรับผิดชอบทางกฎหมายและการเมืองที่เกี่ยวข้องกับการประกาศกฎอัยการศึกนี้”
ที่มา CNBC
----------------------------
'ยุน ซอก ยอล' อาจถูกกดดันให้ลงจากตำแหน่ง ปธน.แม้รอดถอดถอน
ขอบคุณภาพจาก Tempo.co English
8-12-2024
ประธานาธิบดียุน ซอก ยอล ผู้นำเกาหลีใต้ รอดพ้นจากการลงมติถอดถอนประธานาธิบดีเมื่อวานนี้ (7 ธ.ค.) จากการประกาศกฎอัยการศึกเพียงสั้นๆ แต่ถึงแม้ยุนจะรอดพ้นจากการถูกปลดออกจากตำแหน่ง หลังจากสมาชิกพรรคของเขาออกจากรัฐสภาและคว่ำบาตรการลงคะแนนเสียง เหลือเพียงสองคนที่ยังอยู่ในรัฐสภา ในขณะที่สมาชิกรัฐสภารัฐบาลที่กลับมาลงคะแนนเสียงคัดค้านญัตติดังกล่าว แต่ยุนก็อาจต้องเผชิญแรงกดดันให้เขาต้องลาออกจากตำแหน่งหลังจากนั้น
ประธานาธิบดียุน เผชิญแรงกดดันอย่างหนักให้ลาออกจากตำแหน่งผู้นำ หลังจากที่เขาพยายามประกาศกฎอัยการศึกในเกาหลีใต้ ซึ่งความพยายามที่ล้มเหลวนี้ ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่าสี่ทศวรรษที่กฎหมายนี้ถูกประกาศใช้ในเกาหลีใต้อีกครั้ง ซึ่งจุดชนวนให้เกิดกระแสต่อต้านอย่างรุนแรง
ด้านสมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ จะยื่นญัตติอีกครั้งในวันพุธที่ 11 ธันวาคมนี้ ซึ่งเป็นวันที่ว่างสำหรับลงคะแนนเสียงในการถอดถอนยุน
แม้ว่าส่วนใหญ่จะมีการรวมตัวกันเพื่อขัดขวางการถอดถอนยูน แต่พรรคพลังประชาชน (PPP) ซึ่งประธานาธิบดีเป็นสมาชิกอยู่ ยืนกรานว่าประธานาธิบดีต้องลาออก โดยฮัน ดงฮุน หัวหน้าพรรคพลังประชาชนกล่าวว่าพรรคของเขาจะ "ยังคงผลักดันให้ประธานาธิบดีลาออกอย่างเป็นระเบียบ" เพื่อ "ลดความสับสน"
ขณะที่คิม จุนฮยอง สมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านจากพรรค Rebuilding Korea กล่าวว่าไม่มีทางที่ประธานาธิบดีจะอยู่ได้จนสิ้นวาระ โดย "ยิ่งเขาลาออกหรือถอดถอนเร็วเท่าไร ก็จะยิ่งดีต่อประเทศของเราเท่านั้น"
ขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ (7 ธ.ค.) ยุนได้กล่าวขอโทษต่อประเทศชาติ ซึ่งถือเป็นการแสดงความเห็นต่อสาธารณชนครั้งแรกของเขานับตั้งแต่ความพยายามประกาศกฎอัยการศึกที่ล้มเหลวของเขาทำให้ประเทศตกอยู่ในความโกลาหลทางการเมืองและนำไปสู่การเรียกร้องให้ถอดถอนเขาฃ
“การประกาศกฎอัยการศึกฉุกเฉินครั้งนี้มีสาเหตุมาจากความสิ้นหวังของผมในฐานะผู้รับผิดชอบสูงสุดในกิจการของรัฐ” ยุนกล่าวในคำปราศรัยยาว 2 นาที “ผมเสียใจอย่างสุดซึ้งและขอโทษประชาชนอย่างจริงใจ ซึ่งคงจะต้องตกใจมาก” พร้อมยอมรับว่าเขา “ทำให้ประชาชนชาวเกาหลีใต้วิตกกังวลและไม่สะดวก”
ยุนย้ำว่า เขา “จะไม่หลีกเลี่ยงความรับผิดชอบทางกฎหมายและทางการเมืองที่เกี่ยวข้องกับการประกาศกฎอัยการศึกครั้งนี้”
เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา (3 ธ.ค.) ยุนประกาศกฎอัยการศึกในการปราศรัยทางโทรทัศน์ที่ไม่ได้ประกาศล่วงหน้า โดยกล่าวหาพรรคฝ่ายค้านหลักว่าเห็นใจเกาหลีเหนือและทำ “กิจกรรมต่อต้านรัฐ” โดยยุนอ้างถึงมติของพรรคเดโมแครตซึ่งมีเสียงข้างมากในรัฐสภาในการถอดถอนอัยการสูงสุดและปฏิเสธข้อเสนอเกี่ยวกับงบประมาณของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ภายในเวลาเพียง 6 ชั่วโมง ผู้นำก็ถูกบังคับให้ถอยกลับ หลังจากที่สมาชิกรัฐสภาฝ่าแนวร่วมทหารเข้าไปในรัฐสภาเพื่อลงมติเอกฉันท์ยกเลิกกฤษฎีกาดังกล่าว
เมื่อพูดถึงกระแสข่าวที่ว่า เขาจะบังคับใช้กฎอัยการศึกอีกครั้ง ยุนกล่าวว่า “จะไม่มีความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่สองอย่างแน่นอน”
“ผมจะมอบความไว้วางใจให้พรรคของผมใช้วิธีการต่างๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพให้กับสถานการณ์ทางการเมือง รวมถึงในช่วงที่เหลือของการดำรงตำแหน่งของผมด้วย… ผมขอโทษประชาชนสำหรับความกังวลที่ผมทำให้เกิดขึ้น” ยุนกล่าวสรุปขณะก้าวลงจากโพเดียมและโค้งคำนับ
สำหรับการประกาศกฎอัยการศึกและสถานการณ์ฉุกเฉินทางทหารในเกาหลีใต้ แม้จะกินเวลาไม่นาน แต่ก็สร้างความตกตะลึงและโกรธแค้นไปทั่วประเทศ จากบาดแผลลึกของความโหดร้ายจากกฎอัยการศึกที่บังคับใช้ในช่วงหลายทศวรรษของการปกครองแบบเผด็จการทหาร ก่อนที่พวกเขาจะชนะการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่นองเลือดและยาวนานในช่วงทศวรรษ 1980
แรงกดดันต่อยุนเพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมา โดยผู้ประท้วงและบุคคลสำคัญฝ่ายค้านเรียกร้องให้ถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง และการสนับสนุนก็สั่นคลอนแม้กระทั่งภายในพรรคของเขาเองและในกองทัพ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (6 ธ.ค.) ฮันกล่าวว่ายุนจำเป็นต้องถูกพักงานจากหน้าที่ทันทีเพื่อปกป้องประเทศจาก “อันตรายร้ายแรง”
สำหรับคำขอโทษของยุนเกิดขึ้นในขณะที่รายละเอียดใหม่เกี่ยวกับรายชื่อผู้ถูกจับกุมที่ประธานาธิบดีเสนอขึ้นระหว่างที่เกิดความวุ่นวาย กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ฮันเรียกร้องให้สั่งพักงานยุน โดยไม่นานหลังจากประกาศกฎอัยการศึก ยุนได้บอกกับฮง จังวอน รองผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติคนแรกทางโทรศัพท์ว่าเขาควรใช้โอกาสนี้ในการ "จับกุมและจัดการทุกอย่าง" ขณะที่ยุนกล่าวว่าเขาจะมอบอำนาจให้หน่วยข่าวกรองเปิดการสอบสวนข่าวกรองและ "สนับสนุนด้วยเงินทุนและบุคลากรโดยไม่มีเงื่อนไข" ซึ่งฮันอยู่ในรายชื่อผู้ถูกจับกุมพร้อมกับนักการเมืองหลายคน รวมถึงอี แจ-มยอง หัวหน้าพรรคเดโมแครตฝ่ายค้าน
IMCT News
ที่มา https://edition.cnn.com/2024/12/06/asia/south-koreas-president-yoon-sun-yeol-intl-hnk/index.html