รัสเซียเตือนการใช้ผู้ก่อการร้ายในซีเรียเพื่อผลประโยชน์ทางภูมิรัฐศาสตร์

8-12-2024

    รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย Sergey Lavrov กล่าวว่าการรุกของกลุ่มผู้ก่อการร้าย Hayat Tahrir al-Sham (HTS)* ในซีเรียมีการดำเนินการมานานแล้ว และรัสเซียจะต่อต้านความพยายามของกลุ่มติดอาวุธในการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในสาธารณรัฐอาหรับซีเรีย

มอสโกเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยับยั้งความขัดแย้งในซีเรีย  “สถานการณ์ได้รุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เนื่องจากการรุกโจมตีกองกำลังของรัฐบาลโดยไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าอย่างชัดเจนโดย Hayat Tahrir al-Sham (อดีตแนวร่วมอัล-นุสรา*) ซึ่งเป็นองค์กรที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกำหนดให้เป็นกลุ่มก่อการร้ายเข้าร่วมกับกลุ่มเล็กๆ หลายกลุ่ม” ลาฟรอฟกล่าวระหว่างแถลงข่าวภายหลังการเยือนโดฮา

เขาเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการหยุดความเป็นปรปักษ์ และกล่าวว่ารัสเซียจะต่อต้านความพยายามใดๆ ก็ตามของกลุ่มติดอาวุธ HTS ที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ภาคพื้นดินในซีเรีย

     “เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งถึงความยอมรับไม่ได้ในการใช้ผู้ก่อการร้ายเช่น ฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม เพื่อบรรลุเป้าหมายทางภูมิรัฐศาสตร์ ดังที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้กับการจัดการรุกรานที่เริ่มจากอิดลิบที่เป็นเขตลดความรุนแรง” ลาฟรอฟอธิบายระหว่างเซสชั่นที่ฟอรัมโดฮา

เขาบอกว่า ภารกิจหลักในขณะนี้ในสถานการณ์รอบๆ ซีเรีย คือการหยุดการปะทะ

เกอีร์ เพเดอร์เซน ทูตพิเศษสหประชาชาติประจำซีเรียให้คำมั่นที่จะดึงเอาผู้มีบทบาทภายนอกที่มีอิทธิพล เพื่อหยุดการต่อสู้และกลับมาเจรจาระหว่างรัฐบาลและฝ่ายค้านอีกครั้ง ลาฟรอฟ กล่าวเสริม

นักการทูตระดับสูงของรัสเซียยังย้ำถึงความพยายามของมอสโกในการต่อต้านการก่อการร้ายในซีเรีย: “เรากำลังทำทุกอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ก่อการร้ายได้เปรียบ แม้ว่าพวกเขาจะอ้างว่าพวกเขาไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายอีกต่อไป”

“ในแนวหน้าทางทหาร รัสเซียกำลังช่วยเหลือกองทัพซีเรียด้วยการสนับสนุนจาก [กองกำลังการบินและอวกาศรัสเซีย] ซึ่งประจำอยู่ที่เมืองคเมมิม และเราช่วยเหลือกองทัพซีเรียในการต่อต้านการโจมตีของผู้ก่อการร้าย” เขากล่าวเสริม

นอกจากนี้ ลาฟรอฟยังระบุด้วยว่ารัสเซีย พร้อมด้วยอิหร่านและเตอร์กิเย จะดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงเรียกร้องให้ลดความรุนแรงในซีเรียได้รับฟังกันโดยทั่วไป

     กลุ่มก่อการร้าย ฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม พร้อมด้วยกลุ่มติดอาวุธหลายกลุ่มจากกลุ่มที่เรียกว่าฝ่ายค้านติดอาวุธซีเรีย ได้เปิดปฏิบัติการขนาดใหญ่เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน โดยรุกคืบจากทางตอนเหนือของอิดลิบ มุ่งหน้าสู่เมืองอเลปโปและฮามา ในวันรุ่งขึ้น วันที่ 30 พฤศจิกายน เมืองใหญ่อันดับสองในซีเรีย อเลปโป พร้อมด้วยเมืองเล็กๆที่รายล้อม รวมถึงสนามบินนานาชาติและฐานทัพอากาศคูไวเรส ก็ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ก่อการร้าย

     นี่นับเป็นครั้งแรกที่กลุ่มติดอาวุธยึดครองอเลปโปได้อย่างสมบูรณ์นับตั้งแต่เริ่มวิกฤตซีเรียในปี 2011 จนถึงปลายปี 2016 ฝ่ายต่อต้านติดอาวุธควบคุมได้เฉพาะทางตะวันออกของเมือง ซึ่งได้รับการยึดคืนโดยกองทัพซีเรียโดยได้รับการสนับสนุนจากทางอากาศของรัสเซีย

     หลังจากการยึดอเลปโป หน่วยก่อการร้ายได้พยายามรุกเข้าสู่เมืองฮามา โดยยึดเมืองมาเร็ต อัล-นูมานได้ กองทัพซีเรียต่อสู้กับการโจมตีของผู้ก่อการร้ายอย่างหนักในจังหวัดฮามาจากสามทิศทางเป็นเวลาหลายวัน เพื่อเตรียมการตอบโต้

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม กองบัญชาการทหารของ ซีเรียได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะมีการปรับใช้หน่วยของตนใหม่จากเมืองฮามา

     เมืองฮามาซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางของซีเรีย อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพซีเรียตลอดความขัดแย้ง ซึ่งเริ่มขึ้นในฤดูใบไม้ผลิปี 2011 ฮามามีความสำคัญทางภูมิศาสตร์เชิงยุทธศาสตร์ โดยอยู่ระหว่างจังหวัดฮอมส์และดามัสกัส และเชื่อมต่อผ่านเทือกเขา สู่จังหวัดลาตาเกีย

     ความพยายามครั้งสุดท้ายในการก่อความไม่สงบด้วยอาวุธโดยกองกำลังใต้ดินอิสลามิสต์หัวรุนแรง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มภราดรภาพมุสลิม* ในเมืองใหญ่อันดับสี่ของซีเรียเกิดขึ้นในปี 1982 ในเวลานั้น ต้องขอบคุณการดำเนินการที่รวดเร็วของกองบัญชาการทหารซีเรีย ทำให้เมืองนี้เป็นอิสระจาก กลุ่มก่อการร้ายและการควบคุมกลับคืนสู่เจ้าหน้าที่ทางการ

ที่มาSputnik