.
หุ้น AI ในอินเดีย 'พุ่ง 55,000% ทุบสถิติโลก' ทั้งที่รายได้ติดลบ-พนักงานมีแค่ 2 คน จุดประเด็นฟองสบู่ -หน่วยงานกำกับดูแล
19-12-2025
Bloomberg รายงานว่า หุ้นที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในโลกกำลังกลายเป็นบทเรียนเตือนใจสำหรับนักลงทุนที่วิ่งเข้าหาผลตอบแทนมหาศาลจากกระแสปัญญาประดิษฐ์ (AI) เมื่อบริษัทที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักอย่าง อาร์อาร์พี เซมิคอนดักเตอร์ (RRP Semiconductor Ltd.) กลายเป็นกระแสคลั่งไคล้ในโซเชียลมีเดีย หลังจากราคาหุ้นพุ่งทะยานขึ้นกว่า 55,000% ภายในระยะเวลาเพียง 20 เดือนจนถึงวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นที่สูงที่สุดในโลกสำหรับบริษัทที่มีมูลค่าตลาดเกิน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
สิ่งที่น่าตกใจคือ การพุ่งขึ้นของราคาหุ้นนี้เกิดขึ้นทั้งที่บริษัทมีรายได้ติดลบในผลประกอบการล่าสุด มีพนักงานเต็มเวลาเพียง 2 คนในรายงานประจำปี และมีความเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เพียงเล็กน้อยหลังจากเพิ่งเปลี่ยนทิศทางธุรกิจมาจากภาคอสังหาริมทรัพย์เมื่อต้นปี 2024 โดยราคาหุ้นที่พุ่งติดเพดาน (Limit-up) ติดต่อกันถึง 149 วันทำการนั้น ถูกขับเคลื่อนโดยกระแสปั่นในโลกออนไลน์ สภาพคล่องหุ้นที่ต่ำมาก และฐานนักลงทุนรายย่อยใน อินเดีย (India) ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว แม้ว่าตลาดหลักทรัพย์และตัวบริษัทเองจะออกมาเตือนนักลงทุนแล้วก็ตาม
การตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแล
ขณะนี้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งอินเดีย (Securities and Exchange Board of India - SEBI) ได้เริ่มตรวจสอบความผิดปกติของการพุ่งขึ้นของหุ้น RRP แล้ว โดยบริษัทที่มีมูลค่า 1.7 พันล้านดอลลาร์แห่งนี้ถูกจำกัดการซื้อขายเหลือเพียงสัปดาห์ละครั้ง และราคาได้ปรับตัวลดลง 6% จากจุดสูงสุดเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน
โสนัม ศรีวาสตาวา (Sonam Srivastava) ผู้ก่อตั้ง Wright Research & Capital Pvt. ให้ความเห็นว่า "เซมิคอนดักเตอร์เป็นกระแสที่ร้อนแรงมาก และผู้คนพร้อมที่จะซื้อหุ้นทุกตัวที่มีชื่อเกี่ยวข้อง เนื่องจาก อินเดีย (India) มีหุ้นกลุ่มนี้ให้เลือกจำกัด" ซึ่งกรณีของ RRP สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการมีส่วนร่วมในกระแส AI โลกของนักลงทุนรายย่อยอาจนำไปสู่การเก็งกำไรที่เกินขอบเขต
สถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียเริ่มเห็นสัญญาณเตือนที่คล้ายคลึงกัน โดยใน จีน (China) หุ้นของ มัวร์ เธรดส์ เทคโนโลยี (Moore Threads Technology Co.) สตาร์ทอัพชิป AI ที่เพิ่งเข้าตลาดได้ร่วงลง 13% หลังจากมีการเตือนความเสี่ยงในการซื้อขาย ส่วนใน เกาหลีใต้ (South Korea) หุ้นของ SK Hynix Inc. ก็ปรับตัวลดลงหลังจากตลาดหลักทรัพย์ยกระดับการแจ้งเตือนความเสี่ยง
เบื้องหลังการทรานส์ฟอร์มของ RRP
จุดเริ่มต้นของ RRP เกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2024 เมื่อ ราชินทรา โชดันการ์ (Rajendra Chodankar) ผู้ก่อตั้ง RRP Group ซึ่งมีภูมิหลังในการทำธุรกิจอุปกรณ์เฉพาะทาง เช่น ระบบภาพความร้อนและกล้องโดรนติดอาวุธ ได้เข้าซื้อกิจการ G D Trading and Agencies Ltd. ด้วยการชำระหนี้แทนเจ้าของเดิมแลกกับหุ้น ซึ่งทำให้เขากลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 74.5% และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น RRP Semiconductor
ในงานเปิดตัวหน่วยธุรกิจใหม่เมื่อเดือนกันยายน 2024 โชดันการ์ (Chodankar) ได้กล่าวว่า "อินเดีย (India) กำลังจะกลายเป็นซูเปอร์ฮิวแมน" โดยมีบุคคลสำคัญอย่าง เดเวนดรา ฟัดนาวิส (Devendra Fadnavis) มุขมนตรีรัฐมหาราษฏระ และตำนานนักคริกเก็ต ซาชิน เทนดุลการ์ (Sachin Tendulkar) มาร่วมงานด้วย ซึ่งภาพเหตุการณ์ดังกล่าวถูกนำไปเผยแพร่ต่อใน YouTube จนสร้างกระแสความเชื่อมั่น
ความจริงที่ขัดแย้งกับราคาหุ้น
ข้อมูลจากการยื่นรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์พบว่า หุ้นกว่า 98% ของ RRP ถูกถือครองโดย โชดันการ์ (Chodankar) และกลุ่มคนใกล้ชิด ทำให้มีหุ้นหมุนเวียนในตลาดน้อยมาก นอกจากนี้บริษัทยังถูก SEBI สั่งห้ามเข้าถึงตลาดทุนเป็นเวลา 10 ปี เนื่องจากความเชื่อมโยงกับบริษัทเดิมที่เคยถูกเพิกถอนชื่อออกไปในปี 2017
ในด้านผลประกอบการ RRP รายงานรายได้ติดลบ 68.2 ล้านรูปี และขาดทุนสุทธิ 71.5 ล้านรูปีในไตรมาสที่สิ้นสุดเดือนกันยายน เนื่องจากต้องกลับรายการยอดขายที่เคยบันทึกไว้หลังจากคำสั่งซื้อขนาดใหญ่ถูกยกเลิก และที่สำคัญที่สุด ในเอกสารที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน บริษัทระบุชัดเจนว่า "ยังไม่ได้เริ่มกิจกรรมการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ใดๆ" และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนดังตามข่าวลือในโซเชียลมีเดีย
ความล้มเหลวของพื้นฐานทางการเงินท่ามกลางความเข้มงวดของหน่วยงานกำกับดูแล กำลังส่งสัญญาณว่าความเสี่ยงทั้งหมดตกอยู่กับนักลงทุนรายย่อยที่กระโดดเข้ามาในช่วงกระแสพุ่งแรง รวมถึงตัว โชดันการ์ (Chodankar) เองที่เป็นผู้ควบคุมหุ้นเกือบทั้งหมดในมือ
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-12-18/world-beating-55-000-surge-in-india-ai-stock-fuels-bubble-fears?fromMostRead=true