.
สหรัฐฯ จ่อคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ 'หากปูติน' ปัดข้อเสนอข้อตกลงสันติภาพยูเครน ขณะการเจรจาถึงจุดวิกฤต
18-12-2025
SCMP รายงานว่า สหรัฐอเมริกา (US) กำลังเตรียมมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ในภาคพลังงาน เพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อมอสโกในกรณีที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน (Vladimir Putin) ปฏิเสธข้อตกลงสันติภาพกับยูเครน ตามคำบอกเล่าของแหล่งข่าวที่รับทราบการหารือภายในรัฐบาลสหรัฐฯ
มาตรการที่อยู่ระหว่างพิจารณา รวมถึงการเล่นงาน “กองเรือเงา” ของเรือบรรทุกน้ำมันที่รัสเซียใช้ในการขนส่งน้ำมันดิบออกสู่ตลาดโลก ตลอดจนผู้ค้า (traders) ที่ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกธุรกรรมเหล่านี้ แหล่งข่าวบางรายระบุว่ามาตรการใหม่อาจถูกประกาศได้เร็วสุดภายในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ดี ทุกอย่างยังขึ้นกับการตัดสินใจขั้นสุดท้ายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump)
สก็อตต์ เบสเซนต์ (Scott Bessent) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยแผนดังกล่าวระหว่างการพบปะเอกอัครราชทูตยุโรปกลุ่มหนึ่งเมื่อต้นสัปดาห์ โดยเขาโพสต์ข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์ภายหลังว่า “ประธานาธิบดีทรัมป์คือประธานาธิบดีแห่งสันติภาพ และผมได้ย้ำว่าภายใต้การนำของเขา อเมริกาจะยังคงให้ความสำคัญกับการยุติสงครามในยูเครน” กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ยังไม่ออกมาตอบคำถามสาธารณะเกี่ยวกับรายละเอียดมาตรการในขณะนี้
แม้ชุดคว่ำบาตรจำนวนมากที่ถูกนำมาใช้ตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเต็มรูปแบบในปี 2022 ยังไม่สามารถเปลี่ยน “สมการตัดสินใจ” ของปูตินได้ แต่มาตรการที่เจาะจงภาคน้ำมันทำให้ราคาน้ำมันดิบรัสเซียอ่อนตัวลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มสงคราม ซ้ำเติมความเปราะบางทางเศรษฐกิจในประเทศ
การหารือคว่ำบาตรรอบใหม่เกิดขึ้นควบคู่กับความพยายามด้านการทูต โดยตัวแทนเจรจาของสหรัฐฯ และยูเครนรายงานความคืบหน้าในสัปดาห์นี้ เกี่ยวกับกรอบหลักของข้อตกลงสันติภาพที่เป็นไปได้ สตีฟ วิทคอฟฟ์ (Steve Witkoff) ทูตพิเศษของสหรัฐฯ เดินทางไปกรุงเบอร์ลินเพื่อหารือสองวันกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ (Volodymyr Zelensky) และผู้นำยุโรปหลายประเทศในข้อเสนอชุดล่าสุด
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยูเครน และยุโรปกล่าวถึง “ความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ” ในการจัดทำกรอบหลักของ “หลักประกันความมั่นคงหลังสงคราม” ที่สหรัฐฯ สนับสนุนให้แก่เคียฟ แต่ยังมีข้อขัดแย้งสำคัญหลายประเด็น ทั้งสถานะในอนาคตของดินแดนในภาคตะวันออกของยูเครน การใช้ทรัพย์สินของธนาคารกลางรัสเซียที่ถูกแช่แข็ง และการบริหารจัดการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซเซีย (Zaporizhzhia)
ฝั่งเคียฟยังต้องการความชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษรว่า พันธมิตรจะดำเนินการอย่างไรหากรัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนอีกครั้งในอนาคต
ด้านรัสเซียยืนยันข้อเรียกร้องให้ยูเครนยอมสละพื้นที่ในภูมิภาคดอนบาส (Donbas) ซึ่งรวมจังหวัดโดเนตสค์ (Donetsk) และลูฮันสค์ (Luhansk) ที่กองทัพและกองกำลังมอสโกพยายามยึดครองมาตั้งแต่ปี 2014 แต่ยังไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด ข้อเสนอจากฝ่ายสหรัฐฯ บางส่วนเสนอแนวคิดให้พื้นที่ที่ยังไม่ถูกยึดครองถูกเปลี่ยนเป็น “เขตปลอดทหารหรือเขตเศรษฐกิจเสรี” ภายใต้การบริหารพิเศษ
ยังไม่ชัดเจนว่าบริเวณดังกล่าวจะถูกยอมรับในทางปฏิบัติให้เป็นดินแดนของรัสเซียหรือไม่ และแลกกับ “ข้อแลกเปลี่ยน” อะไรจากฝั่งมอสโก ขณะที่เคียฟและพันธมิตรจำนวนมากยังคงคัดค้านการยกดินแดนให้รัสเซีย และไม่ต้องการถอนกำลังจากพื้นที่ที่มีความสำคัญต่อการป้องกันประเทศ
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ มองว่า ทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกแช่แข็งอยู่ในต่างประเทศจะต้องมีบทบาทในกรอบข้อตกลงสันติภาพใดๆ ขณะผู้นำยุโรปเตรียมตัดสินใจในสัปดาห์นี้ว่าจะเดินหน้าการใช้สินทรัพย์เหล่านี้เพื่อสนับสนุนความช่วยเหลือทางทหารและเศรษฐกิจแก่ยูเครนหรือไม่ มอสโกตอบโต้แนวคิดดังกล่าวอย่างแข็งกร้าว ซึ่งเจ้าหน้าที่บางรายมองว่าเป็นสัญญาณว่ารัสเซียต้องการขัดขวางไม่ให้มาตรการนี้เกิดขึ้นจริง และอาจใช้เป็นแต้มต่อในการเรียกร้องให้ผ่อนคลายคว่ำบาตรท่ามกลางสัญญาณเศรษฐกิจภายในประเทศที่ทรุดตัว
ในสถานการณ์ที่การเจรจายังติดหล่มเรื่องดินแดนและหลักประกันด้านความมั่นคง ความสนใจจึงหันกลับไปที่การตอบสนองของปูติน ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังแทบไม่มีสัญญาณว่าเขาพร้อมจะยุติปฏิบัติการทางทหารหรือปรับเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ในยูเครน
ในมุมทหาร ภาพการสู้รบยังตึงเครียด โดยกองทัพรัสเซียยังคงใช้ระบบจรวดหลายลำกล้อง “Grad” ยิงถล่มแนวป้องกันของยูเครนใกล้เมืองคอสเตียนทีนิวคา (Kostiantynivka) ในแคว้นโดเนตสค์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
ด้านการทูต รองรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ รยาบคอฟ (Sergei Ryabkov) ระบุในสัมภาษณ์กับสำนักข่าว ABC News ว่า เขา “มั่นใจมาก” ว่าสงครามใกล้ยุติ แต่ย้ำว่าข้อเรียกร้องเรื่องดินแดนของมอสโก “ยังไม่เปลี่ยนแปลง” และปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะมีการส่งกองกำลัง NATO เข้าไปประจำการในยูเครนภายใต้ข้อตกลงสันติภาพ
“ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเรากำลังอยู่บนเส้นทางใกล้ถึงจุดยุติของวิกฤตรุนแรงนี้” รยาบคอฟกล่าว พร้อมเสริมว่า “เราพร้อมจะทำข้อตกลง ใช้คำของประธานาธิบดีทรัมป์ และผมหวัง – พร้อมภาวนา – ว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วเข้าไว้ดีกว่าช้า”
ขณะเดียวกัน มาตรการคว่ำบาตรจำนวนมากต่อรัสเซียจนถึงตอนนี้กลับไม่ได้ดันราคาน้ำมันขึ้น แต่ตลาดกลับเข้าสู่ภาวะอุปทานล้น ซึ่งคาดว่าจะชัดเจนยิ่งขึ้นในปีหน้า สัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ร่วงลงราว 20% นับตั้งแต่ต้นปี และดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2021 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้คว่ำบาตรผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซียไปแล้ว 4 ราย และร่วมกับชาติ G7 อื่นๆ ขึ้นบัญชีเรือบรรทุกน้ำมันหลายร้อยลำที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งน้ำมันรัสเซีย ในมิติการเจรจาระดับสูง วิทคอฟฟ์และจาเร็ด คุชเนอร์ (Jared Kushner) บุตรเขยของประธานาธิบดีทรัมป์ เคยใช้เวลาหารือกับปูตินที่เครมลินราว 5 ชั่วโมงเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา
เซเลนสกี้กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า เขาได้รับหลักการตกลงจากสหรัฐฯ ในการทำให้ “หลักประกันความมั่นคง” มีผลผูกพันทางกฎหมายผ่านการลงมติในสภาคองเกรส เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงยุติสงคราม พร้อมระบุว่าคาดหวังให้สหรัฐฯ เดินหน้าหารือชุดถัดไปกับรัสเซีย ขณะที่คณะเจรจากยูเครนอาจเดินทางกลับสหรัฐฯ เพื่อพูดคุยต่อในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.scmp.com/news/world/united-states-canada/article/3336785/ukraine-war-us-readies-new-russia-sanctions-if-putin-rejects-peace-deal?module=top_story&pgtype=homepage