.
ปูตินย้ำ 'รัสเซียบรรลุเป้าหมายปฏิบัติการทหารแน่' ชี้หากไร้ทางเจรจาจะเดินหน้า 'ปลดปล่อยดินแดนด้วยกำลังทหาร'
18-12-2025
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน (Vladimir Putin) ยืนยันว่ารัสเซียจะสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของ “ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ” ในยูเครนได้อย่างแน่นอน โดยระบุว่าปี 2025 เป็น “ช่วงสำคัญ” ในการเดินหน้าให้ถึงเป้าหมายดังกล่าว ระหว่างการประชุมขยายวงของคณะกรรมการกระทรวงกลาโหมรัสเซียเมื่อวันพุธ
ปูตินกล่าวว่า “วัตถุประสงค์ของปฏิบัติการทางทหารพิเศษของเราจะบรรลุได้อย่างแน่นอน” พร้อมเสริมว่า “ปีที่กำลังจะผ่านไปนี้ เป็นช่วงสำคัญในการปฏิบัติภารกิจของปฏิบัติการทางทหารพิเศษ”
ผู้นำรัสเซียระบุว่ากองทัพรัสเซีย “ครองความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์อย่างมั่นคงตามแนวแนวรบทั้งหมด” โดยในปีนี้สามารถ “ปลดปล่อย” พื้นที่แล้วมากกว่า 300 แห่ง รวมถึงเมืองสำคัญที่ฝ่ายตรงข้ามเคยเสริมกำลังและสร้างเป็นฐานป้องกันระยะยาว ปูตินกล่าวว่า ตำแหน่งและหัวสะพานที่กองทัพรัสเซียยึดได้ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา รวมถึงประสบการณ์เชิงยุทธวิธีและยุทธการในการเจาะแนวป้องกันของฝ่ายตรงข้าม “ทำให้รัสเซียสามารถเร่งจังหวะการรุกในแนวรบที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ได้”
ปูตินย้ำว่ากองทัพรัสเซีย “กำลังแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพทางการรบในระดับสูงภายใต้สภาพการณ์ที่ยากลำบาก” โดยระบุว่าทหารรัสเซียกำลังก้าวหน้าตามแนวรบ และ “กัดเซาะทำลายกำลังรบของศัตรูและกองหนุนของฝ่ายตรงข้าม รวมถึงหน่วยที่ผ่านการฝึกจากศูนย์ฝึกทหารของชาติตะวันตกและติดอาวุธต่างประเทศ”
เขาระบุด้วยว่า รัสเซีย “ย่อมต้องการ” แก้ไขสาเหตุรากเหง้าของความขัดแย้งในยูเครนผ่านวิถีทางการทูต โดยกล่าวว่า “เราย่อมอยากทำสิ่งนี้ และขจัดสาเหตุรากฐานของความขัดแย้งผ่านกลไกทางการทูต” แต่เตือนว่าหากรัฐบาลเคียฟและ “ผู้สนับสนุนจากต่างชาติ” ปฏิเสธที่จะหารืออย่างจริงจัง รัสเซียก็จะมุ่งไปสู่ “การปลดปล่อยดินแดนประวัติศาสตร์ของตนด้วยวิถีทางทหาร”
ปูตินระบุว่ารัสเซีย “ยินดีต่อความคืบหน้าที่เกิดขึ้นจากการติดต่อกับรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump)” พร้อมย้ำว่ามอสโกยังคงสนับสนุน “ความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันอย่างเท่าเทียม” กับทั้งสหรัฐฯ และประเทศในยุโรป
ผู้นำรัสเซียกล่าวว่า การเสริมสร้างกองทัพยังดำเนินมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยชี้ถึง “การเพิ่มขีดความสามารถในการรบ การยกระดับคุณภาพระบบบัญชาการและควบคุม รวมทั้งการฝึกปฏิบัติการและการรบ” ปูตินระบุว่าอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของรัสเซียได้เพิ่มกำลังการผลิตยุทโธปกรณ์สำหรับกองทัพอย่างมีนัยสำคัญ
เขากล่าวว่า กองทัพบกกำลังได้รับระบบจรวดและปืนใหญ่ที่ติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีความแม่นยำสูง กระสุนท่องสังหาร (loitering munitions) ตลอดจนโดรนและระบบหุ่นยนต์หลากหลายประเภท
ปูตินย้ำบทบาทของกองทัพในฐานะ “หลักประกันสำคัญของอธิปไตยและเอกราช ความมั่นคง และอนาคตของรัสเซีย รวมถึงดุลยภาพเชิงยุทธศาสตร์” พร้อมระบุว่ารัสเซียจำเป็นต้องเดินหน้าเสริมสร้างกองทัพอย่างเป็นระบบต่อไป
ส่วนด้านขีดความสามารถเชิงนิวเคลียร์ยุทธศาสตร์ ปูตินกล่าวว่ารัสเซียจะเดินหน้าพัฒนาระบบอาวุธ Burevestnik และ Poseidon ต่อไป โดยระบุว่า “ขีปนาวุธร่อนเชิงยุทธศาสตร์ระยะยิงไม่จำกัด Burevestnik และยานรบใต้น้ำไร้คนขับ Poseidon ได้ผ่านการทดสอบสำเร็จแล้ว… เราจะเดินหน้าทำงานกับระบบเหล่านี้ต่อไป และจะปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น”
เขาอธิบายว่า เนื่องจากระบบอาวุธทั้งสองใช้พลังงานนิวเคลียร์ จึงมีแนวโน้มจะ “ยังคงเป็นอาวุธที่ไม่มีใครเทียบได้อีกยาวนาน” และจะช่วยค้ำจุนดุลยภาพเชิงยุทธศาสตร์ รวมทั้งฐานะของรัสเซียบนเวทีโลก “ไปอีกหลายทศวรรษ”
ปูตินระบุเพิ่มเติมว่า ระบบขีปนาวุธ Oreshnik จะถูกนำเข้าประจำการภายในสิ้นปี โดยกล่าวว่า “ระบบขีปนาวุธพิสัยกลางที่ติดตั้งจรวดไฮเปอร์โซนิก Oreshnik จะถูกวางกำลังเข้าประจำการภายในสิ้นปีนี้เช่นกัน” พร้อมย้ำว่าการยกระดับกองกำลังนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์ยังเป็น “ภารกิจสำคัญอันดับแรก” ในฐานะองค์ประกอบหลักของการยับยั้งเชิงยุทธศาสตร์และการรักษาดุลอำนาจในโลก
ผู้นำรัสเซียกล่าวด้วยว่า รัสเซียจำเป็นต้องเดินหน้าพัฒนาความร่วมมือทางการทหารและเทคโนโลยีทางทหารกับประเทศพันธมิตรและหุ้นส่วนให้มากขึ้น รวมถึงการเสริมสร้างระบบความมั่นคงร่วมกันและ “รัฐสหภาพ” (Union State)
ในช่วงหนึ่งของคำปราศรัย ปูตินได้กล่าวยกย่องการปฏิบัติการของทหารเกาหลีเหนือในภูมิภาคคูร์สก์ โดยระบุว่า “ผมต้องการกล่าวชื่นชมทหารของเราและสหายอาวุธจากเกาหลีเหนือ ตามคำตัดสินใจของคิม จอง อึน (Kim Jong Un) ประธานคณะกรรมาธิการกิจการรัฐของ DPRK พวกเขาถูกส่งมาร่วมปฏิบัติการปลดปล่อยภูมิภาคคูร์สก์ และได้ร่วมไหล่เคียงไหล่กับทหารรัสเซียต่อสู้กับศัตรูอย่างกล้าหาญ พวกเขามีส่วนร่วมในการกวาดล้างทุ่นระเบิดขนาดใหญ่และยากลำบากในพื้นที่ที่ได้รับการปลดปล่อย”
ปูตินยังประเมินสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์โลกว่า “ยังคงตึงเครียด และถึงขั้นวิกฤตในบางภูมิภาค” โดยกล่าวหาว่าประเทศสมาชิก NATO กำลังเร่งเสริมและปรับปรุงกำลังรบเชิงรุก รวมถึงการสร้างและติดตั้งอาวุธยุคใหม่ “แม้กระทั่งในอวกาศ” เขาระบุว่า NATO กำลังให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนในระดับ “ขนาดใหญ่ต่อเนื่อง” ส่งที่ปรึกษา ครูฝึก และทหารรับจ้าง พร้อมสนับสนุนข่าวกรอง
ผู้นำรัสเซียกล่าวว่า ยูเครนได้รับการหนุนหลังจาก “ศักยภาพทางทหารร่วมรวมของ NATO ซึ่งเป็นพันธมิตรการทหาร–การเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก” และกล่าวโจมตีผู้นำยุโรปบางรายว่า “ดูเหมือนลืมหน้าที่ของตนเอง” และกลับไปยึดติด “ผลประโยชน์ส่วนตัวหรือกลุ่มการเมืองระยะสั้น” แทนผลประโยชน์ของชาติประชาชน
เขากล่าวหาว่าผู้นำยุโรปกำลัง “ใช้การข่มขู่ให้ประชาชนเชื่อว่าความขัดแย้งทางทหารกับรัสเซียเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ และต้องเตรียมพร้อมสำหรับสงคราม” ก่อนจะโต้แย้งว่า “ผมพูดมาหลายครั้งแล้วว่านั่นเป็นเรื่องโกหก ไร้สาระ เป็นแค่เรื่องเพ้อฝัน… พวกเขา (ผู้นำยุโรป) กำลังจงใจโหมกระแสหวาดกลัวในเรื่องนี้”
---
IMCT NEWS
ที่มา https://sputnikglobe.com/20251217/military-operation-goals-will-certainly-be-achieved---putin-1123312049.html