SocGen ธนาคารฝรั่งเศส คาดทองคำพุ่งทะยาน $5,000 ในปี 2026 เหนือกว่าดอลลาร์และพันธบัตรสหรัฐฯ

17-12-2025

   Kitco News รายงานว่า  โกลด์บูลยังไม่จบ Société Générale คงน้ำหนักทอง 10% คาดราคาทะลุ 5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ปี 2026 

   Société Générale หนึ่งในธนาคารรายใหญ่ของฝรั่งเศส ประเมินว่าราคาทองคำจะยังให้ผลตอบแทนเหนือกว่าพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และดอลลาร์สหรัฐต่อเนื่องไปจนถึงปี 2026 และย้ำมุมมองว่าราคาทองมีโอกาสพุ่งขึ้นแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ภายในสิ้นปีหน้า 

   ทีมวิเคราะห์ของ Société Générale ระบุในรายงานกลยุทธ์ล่าสุดว่า ก่อนเข้าสู่ปีใหม่ ธนาคารยังคงจัดสรรน้ำหนักทองคำ 10% ในพอร์ตการลงทุนแบบหลายสินทรัพย์ (multi‑asset portfolio) ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดที่กำหนดไว้ ขณะเดียวกันได้ปรับลดน้ำหนักพันธบัตรสหรัฐฯ แบบชดเชยเงินเฟ้อ (U.S. inflation‑linked bonds) ลงเหลือศูนย์ และหั่นสัดส่วนพันธบัตรเอกชนลงครึ่งหนึ่ง เหลือเพียง 5% 

  รายงานชี้ว่า ในปีที่ตลาดตราสารหนี้เผชิญแรงกดดัน และการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐบั่นทอนผลตอบแทนของสินทรัพย์ที่อ้างอิงสกุลดอลลาร์ กลยุทธ์จัดพอร์ตแบบถ่วงดุล (balanced allocation) ของ SGMAP สามารถสร้างผลงานได้ดี โดยธีมสำคัญคือ “การกระจายตัวของการปรับขึ้นราคาในหลายกลุ่มสินทรัพย์” ซึ่งสะท้อนให้เห็นในตลาดหุ้นหลายภูมิภาค รวมถึงสินทรัพย์อย่างทองคำ 

  นักวิเคราะห์ของธนาคารย้ำมุมมองเดิมที่คาดว่าราคาทองคำจะปรับขึ้นแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปี 2026 พร้อมตั้งชื่อส่วนวิเคราะห์ว่า “Outlook 2026” เพื่อสะท้อนกรอบเวลาการคาดการณ์ 

  ในแง่พฤติกรรมนักลงทุน รายงานระบุว่า นักลงทุนรายย่อยยังคงกระจายเงินออกจากสินทรัพย์เดิมและเข้าลงทุนในทองคำอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปของทองคำแท่ง เหรียญทอง และกองทุน ETF ทองคำ โดย Société Générale แนะนำกลยุทธ์ “ซื้อเมื่อย่อตัว” (buying the dips) ด้วยความเชื่อว่า ธนาคารกลางของประเทศที่ไม่ได้ผูกพันด้านภูมิรัฐศาสตร์กับสหรัฐฯ (non‑aligned central banks) จะยังเดินหน้าลดการถือครองสินทรัพย์ดอลลาร์ และเพิ่มน้ำหนักไปยังทองคำที่ทำหน้าที่ป้องกันความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

  ธนาคารยังชี้ว่า ทองคำเป็นเครื่องมือประกันความเสี่ยงต่อความไม่แน่นอนหลายมิติ ตั้งแต่ความเสี่ยงด้านนโยบายการเงิน ไปจนถึงความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) จะมีท่าทีผ่อนคลายมากขึ้น (more dovish) หลังการเปลี่ยนตัวบุคคลสำคัญในคณะผู้กำหนดนโยบาย 

  มุมมองเชิงบวกต่อทองคำของ Société Générale ตั้งอยู่บนสมมติฐานว่า Fed จะใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอย่างเชิงรุกมากขึ้นในช่วงปีหน้า โดยแม้ธนาคารจะคาดว่าแรงกดดันเงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะทยอยลดลง แต่ก็เตือนว่าความเสี่ยงในตลาดแรงงานสหรัฐฯ กำลังเพิ่มขึ้น 

  รายงานชี้ให้เห็นว่าถึงแม้ดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ (federal funds rate) จะถูกปรับลดจากระดับ 5.5% ลงมาอยู่ที่ราว 4% แล้ว แต่ในเชิง “ดอกเบี้ยแท้จริง” (real fed funds rate) ยังอยู่ในระดับสูง สะท้อนว่าสภาพการเงินยังค่อนข้างคับตัวเมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อ นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารคาดว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีก 50 จุดฐาน (50bp) ภายในเดือนเมษายนปีหน้า ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาดส่วนใหญ่ และหากเกิดขึ้นจริงจะช่วยดันนโยบายการเงินเข้าใกล้ระดับ “เป็นกลาง” มากขึ้น พร้อมเปิดทางสู่การผ่อนคลายเงื่อนไขทางการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป 

   Société Générale ระบุเพิ่มเติมว่า ในท้ายที่สุด ภารกิจคู่ของ Fed ที่ต้องรักษาสมดุลระหว่างการควบคุมเงินเฟ้อและการสนับสนุนการจ้างงาน รวมถึงแรงกดดันทางการเมืองในการดูแลราคาสินค้าอาหารก่อนการเลือกตั้งในสหรัฐฯ จะเป็น “สมอ” สำคัญที่เหนี่ยวรั้งไม่ให้ดอกเบี้ยกลับไปอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน ส่งผลให้มีโอกาสสูงที่ Fed จะเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม หากแรงกดดันด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจรุนแรงขึ้น 

   นอกเหนือจากโอกาสทำกำไรจากส่วนต่างราคา (capital gains) แล้ว ธนาคารฝรั่งเศสยังมองว่าทองคำมีคุณค่าในฐานะสินทรัพย์ช่วยกระจายความเสี่ยงในพอร์ต เพราะความสัมพันธ์ระหว่างตลาดหุ้นสหรัฐฯ กับตลาดพันธบัตรยังอยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยทางประวัติศาสตร์ ทำให้ประโยชน์ของทองคำในฐานะตัวคานสมดุลความผันผวนของพอร์ตลงทุนยิ่งมีนํ้าหนักมากขึ้นในสายตาผู้จัดการกองทุนระดับโลก

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.kitco.com/news/article/2025-12-15/golds-rally-5000-2026-will-outperform-us-dollar-and-bonds-societe-generale