อินเดียกังวล 'สหรัฐฯหนุนปากีสถาน' ด้วยการอัปเกรด F-16 และเงินลงทุนเหมืองมูลค่าพันล้านดอลลาร์

17-12-2025

   SCMP รายงานว่า สหรัฐฯ และ ปากีสถาน  กำลังฟื้นฟูความร่วมมือด้านกลาโหมและแร่ธาตุเพื่อปรับความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดขึ้นใหม่ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่สร้างความวิตกกังวลใน อินเดีย  แม้ว่า วอชิงตัน  จะพยายามให้ความมั่นใจกับ นิวเดลี  แล้วก็ตาม

  วอชิงตัน  อนุมัติการอัปเกรดฝูงบินขับไล่ F-16 ที่เก่าแก่ของ ปากีสถาน  ด้วยมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเปิดทางให้มีการจัดหาเงินทุนมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  สำหรับบริษัท สหรัฐฯ  ที่เกี่ยวข้องกับโครงการแร่ธาตุสำคัญ  ในประเทศเอเชียใต้

  การเคลื่อนไหวเหล่านี้ถือเป็นการฟื้นความสัมพันธ์ สหรัฐฯ-ปากีสถาน (US-Pakistan) ที่สำคัญที่สุดนับตั้งแต่ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) กลับสู่ ทำเนียบขาว ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับวาระแรกของเขา เมื่อครั้งที่ วอชิงตัน ระงับความช่วยเหลือทางทหารแก่ อิสลามาบัด (Islamabad) และกล่าวหาว่ามีการหลอกลวงใน "สงครามต่อต้านการก่อการร้าย"

   สถานทูต สหรัฐฯ ใน อิสลามาบัด (Islamabad) กล่าวเมื่อวันพุธที่แล้วว่า แพ็กเกจมูลค่า 686 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  จะปรับปรุงฝูงบิน F-16 ของ ปากีสถาน  ให้ทันสมัยและยืดอายุการใช้งานไปจนถึงปี 2040

   ในวันเดียวกันนั้น ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของ สหรัฐฯ ได้ประกาศว่าจะให้เงินสนับสนุน 1.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  แก่บริษัท อเมริกา  ที่จัดหาอุปกรณ์และเครื่องจักรสำหรับโครงการทองแดงและทองคำ Reko Diq ใน บาลูจิสถาน (Balochistan) ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีความไม่สงบทางตะวันตกของ ปากีสถาน (Pakistan)

การฟื้นฟูความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์

   นางฟาร์วา อามีร์ (Farwa Aamer) ผู้อำนวยการโครงการริเริ่มเอเชียใต้ (South Asia Initiatives) ที่สถาบันนโยบาย Asia Society ใน นิวยอร์ก  กล่าวว่า ความสัมพันธ์ สหรัฐฯ-ปากีสถาน  "กำลังประสบกับการฟื้นตัวอย่างแน่นอน"

   ปากีสถาน ร้องขอการอัปเกรด F-16 ครั้งแรกในปี 2021 แต่ นางอามีร์ (Aamer) กล่าวว่า ต้องมีการปรับปรุงความปรารถนาดีระหว่างสองประเทศเพื่อสร้างพื้นที่ทางการเมืองให้ วอชิงตัน  ดำเนินการต่อไป เธอกล่าวเสริมว่า ทั้งสองฝ่ายยังมีความเห็นพ้องต้องกันในเรื่องแร่ธาตุสำคัญ ซึ่ง ขับเคลื่อนโดยความทะเยอทะยานของ สหรัฐฯ (US Ambition) ที่จะรักษาห่วงโซ่อุปทานที่มีความยืดหยุ่นสำหรับทรัพยากรหลัก

   ในช่วงปีที่ผ่านมา ปากีสถาน (Pakistan) ได้วางตำแหน่งตัวเองเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนด้านแร่ธาตุ โดยได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ Barrick Mining ของ แคนาดา (Canada’s Barrick Mining) ในเดือนเมษายนเพื่อพัฒนา Reko Diq "เมื่อรวมเข้าด้วยกัน พลวัตเหล่านี้บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายและเป็นบวกในความสัมพันธ์ทวิภาคี" นางอามีร์ (Aamer) กล่าว "แต่ วอชิงตัน (Washington) ให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ดังนั้นภาระจึงตกอยู่กับ ปากีสถาน ( ที่จะต้องส่งมอบศักยภาพและสร้างความมั่นใจว่าแรงผลักดันนี้จะคงอยู่"

   ความไว้วางใจระหว่าง วอชิงตัน  และ อิสลามาบัด  เริ่มกลับมาสร้างใหม่ไม่นานหลังจาก ทรัมป์ ( เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม หลังจากการจับกุม นายโมฮัมหมัด ชาริฟุลลาห์ (Mohammad Sharifullah) ผู้ก่อการร้าย Islamic State-Khorasan ที่ สหรัฐฯ  ต้องการตัวในข้อหามี  ส่วนเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดสนามบินคาบูล ในปี 2021 ซึ่งทำให้ทหารอเมริกา เสียชีวิต 13 นาย

จุดร่วมของ สหรัฐฯ (US) และ จีน (China)

   การดำเนินการดังกล่าวได้วางรากฐานสำหรับการมีส่วนร่วมที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดย อิสลามาบัด (Islamabad) ตอบสนองในเชิงบวกต่อคำขอของ วอชิงตัน ในการเข้าถึงแหล่งสำรองแร่ธาตุสำคัญใน บาลูจิสถาน (Balochistan) ก่อนหน้านี้ ปากีสถาน (Pakistan) ประสบความสำเร็จในการล็อบบี้ให้ สหรัฐฯ (US) กำหนดให้ Balochistan Liberation Army เป็น "องค์กรก่อการร้ายต่างชาติ" ในเดือนสิงหาคม

  จังหวัดบาลูจิสถาน (Balochistan) เป็นจุดศูนย์กลางของโครงการระเบียงเศรษฐกิจ จีน-ปากีสถาน (China-Pakistan Economic Corridor) ที่มีมูลค่าประมาณ 6.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  ซึ่งเป็นโครงการสำคัญของแผนริเริ่มแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ของ ปักกิ่ง  และเป็นที่ตั้งของท่าเรือ กวาดาร์ (Gwadar Port) ที่ดำเนินการโดย จีน อย่างไรก็ตาม การโจมตีของผู้ก่อความไม่สงบซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อพลเมืองจีน ใน บาลูจิสถาน (Balochistan) และที่อื่น ๆ ได้ทำให้ความสัมพันธ์ของ ปักกิ่ง (Beijing) กับ อิสลามาบัด (Islamabad) ตึงเครียด และทำให้การไหลของการลงทุนชะลอตัวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

   นายมุสตาฟา ไฮเดอร์ ซาเยด (Mustafa Hyder Sayed) ผู้อำนวยการบริหารสถาบัน จีน-ปากีสถาน ใน อิสลามาบัด (Islamabad) กล่าวว่า ขณะนี้มีจุดบรรจบกันของผลประโยชน์ด้านการต่อต้านการก่อการร้ายและการค้าในหมู่ สหรัฐฯ (US), จีน (China) และ ปากีสถาน (Pakistan) ในจังหวัดนี้ "ทุกฝ่ายต้องการความมั่นคงและกำจัดการก่อการร้ายจากที่นั่นเพื่อให้โครงการของตนเจริญรุ่งเรือง" เขากล่าว

ความอึดอัดของ อินเดีย (India)

   นักวิเคราะห์กล่าวว่า ในขณะเดียวกัน อินเดีย (India) ก็รู้สึกไม่สบายใจกับการฟื้นฟูความสัมพันธ์ดังกล่าว การปรับความสัมพันธ์ครั้งใหม่นี้ "โดยรวมเป็นจุดที่เกิดความขัดแย้งในความสัมพันธ์ สหรัฐฯ-อินเดีย (US-India Relations) ซึ่งกำลังเผชิญกับความพลิกผันของตัวเอง" นางอามีร์ (Aamer) กล่าว

  การคลี่คลายของความสัมพันธ์ สหรัฐฯ-ปากีสถาน (US-Pakistan) ยังสะท้อนให้เห็นในความสัมพันธ์ส่วนตัวที่เติบโตขึ้นระหว่าง ทรัมป์ (Trump) และบุคคลสำคัญของ ปากีสถาน (Pakistan) — โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พลเอกอาวุโส อาซิม มูนีร์ (Asim Munir) ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งมีรายงานว่า ทรัมป์ (Trump) ได้หารือเกี่ยวกับการยุติความขัดแย้งระยะสั้นระหว่าง อินเดีย (India) และ ปากีสถาน (Pakistan) ในช่วงฤดูร้อนนี้

   นายพรหม เชลลานีย์ (Brahma Chellaney) ศาสตราจารย์ด้านยุทธศาสตร์ศึกษาจากศูนย์วิจัยนโยบาย (Centre for Policy Research) ใน นิวเดลี (Delhi) กล่าวว่า ผลประโยชน์ของ ปักกิ่ง (Beijing) และ วอชิงตัน (Washington) สอดคล้องกันใน ปากีสถาน (Pakistan) เมื่อพูดถึง "การจำกัดความพยายามของ อินเดีย (India) ในการครองความเป็นใหญ่ในภูมิภาค"

"แต่ นิวเดลี (New Delhi) ยังไม่ได้คำนึงถึงความจริงที่น่าอึดอัดใจนี้" เขาเขียนในโพสต์โซเชียลมีเดียเมื่อวันศุกร์

   เพื่อคลายความกังวลของ อินเดีย (Indian Concerns) ทรัมป์ (Trump) ได้พูดคุยกับ นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี (Narendra Modi) ไม่นานหลังจากประกาศข้อตกลงการเงิน F-16 และแร่ธาตุ สถานทูต สหรัฐฯ (US Embassy) ใน อิสลามาบัด (Islamabad) ยังเน้นย้ำว่าการอัปเกรดเครื่องบินรบ "จะไม่เปลี่ยนแปลงความสมดุลทางทหารพื้นฐานในภูมิภาค"

นางอามีร์ (Aamer) กล่าวว่า แม้ว่าข้อตกลง F-16 จะถูก "จับตามองอย่างใกล้ชิด" ใน นิวเดลี (Delhi) แต่ความสัมพันธ์โดยรวมระหว่าง สหรัฐฯ (US) และ อินเดีย (India) ก็ยังคง "แข็งแกร่ง" โดยชี้ไปที่ข้อตกลงความร่วมมือด้านกลาโหม 10 ปีที่ลงนามในเดือนตุลาคม

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.scmp.com/week-asia/politics/article/3336526/india-wary-us-backs-pakistan-f-16-upgrades-and-mineral-projects?module=top_story&pgtype=section